CPF รับรางวัลพระราชทาน Thailand Corporate Excellence Awards 2019 สะท้อนการบริหารจัดการองค์ขั้นสูง สวนกระแสเศรษฐกิจลุยส่งออกนอก เสริมรายได้ ตั้งเป้าโต 8- 10 เปอร์เซ็นต์ จบปี66 เก็บ 8 แสนล้านบาท

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ผู้พัฒนาธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารแบบครบวงจรในประเทศไทย เข้ารับรางวัลพระราชทาน Thailand Corporate Excellence Awards 2019 สาขาความเป็นเลิศด้านผู้นำ สะท้อนความมุ่งมั่นการบริหารจัดการองค์กรสู่ความสำเร็จ

            ทั้งนี้ ซีพีเอฟได้เข้ารับรางวัลพระราชทาน Thailand Corporate Excellence Awards 2019 สาขาความเป็นเลิศด้านผู้นำ สะท้อนความมุ่งมั่นการบริหารจัดการองค์กรสู่ความสำเร็จโดยมีนายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหารซีพีเอฟเข้ารับมอบจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี งานนี้จัดโดยสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) และสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

          นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหารซีพีเอฟ เปิดเผยว่า รางวัลดังกล่าวเกิดจากการดำเนินธุรกิจบนวิสัยทัศน์ที่มุ่งสู่ครัวของโลก ภายใต้การบริหารจัดการธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างโดดเด่นจากผู้นำองค์กรซีพีเอฟทุกๆท่านตลอดเวลาที่ผ่านมา

“ด้วยภารกิจและความมุ่งมั่นที่จะผลิตอาหารปลอดภัยเพื่อผู้บริโภคทั่วโลก ผ่านการสร้างสรรค์นวัตกรรมและใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยตอบโจทย์ในการสร้างความมั่นคงทางอาหารควบคู่ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยนำพาองค์กรและบุคลากรให้เข้มแข็ง มีความพร้อมในการปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลง สร้างศักยภาพการแข่งขันในเวทีโลกได้อย่างยั่งยืน”

          รางวัลนี้เป็นความภาคภูมิใจของซีพีเอฟที่ได้รับรางวัลดังกล่าว จากการที่บริษัทฯได้ทุ่มเทพัฒนาบริหารจัดการองค์กร การพัฒนาผู้นำสร้าง Successor รางวัลที่ได้รับจึงเป็นการสะท้อนความสำเร็จที่องค์กรเราได้ปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่อง

            สำหรับแนวโน้มรายได้ในปีนี้มีแนวโน้มคาดว่าผลดำเนินงานในปี 2563 คาดจะเติบโตราว 8-10 เปอร์เซ็นต์ซึ่งจะมาจากการขยายการลงทุนในต่างประเทศเป็นหลักประกอบกับได้รับอานิสงส์จากโรค ASF ในสุกร ที่ส่งผลให้ราคาสุกรในตลาดของบางประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาสุกรในประเทศยังคงมีแนวโน้มทรงตัวอยู่ที่ 70 บาทต่อกิโลกรัม

            ขณะที่ภาวะกำลังซื้อในประเทศไทยที่ชะลอตัว บริษัทประเมินว่าจะไม่ส่งผลกระทบกับยอดขายของบริษัท ประเมินว่าผู้บริโภคยังจับจ่ายสินค้าอาหารของ CPF ต่อเนื่อง เพราะ ประชาชนจำเป็นต้องการบริโภคอาหารเป็นหลัก 

            ล่าสุดยูฟาร์มเปิดตัว Benja Chicken ไก่สดแช่แข็งพรีเมียม ห้างเหอหม่า-อาลีบาบา เป็นเจ้าแรกของไทยที่วางจำหน่ายในห้างเหอหม่า กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ณ Beijing Hema สาขา Shilipu ในเฟสแรก ไก่เบญจาจะวางจำหน่ายที่ห้างเหอหม่า 30 สาขาในกรุงปักกิ่ง และมีแผนจะขยายไป 70 สาขา ให้ครอบคลุมกรุงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว และเซินเจิ้น รวมถึงจะขยายแพลตฟอร์มเข้าช่องทางออนไลน์ในเว็บอีคอมเมิร์ชชั้นนำของจีน เช่น JD.com และ Tmall.com ภายในปลายปี 2563 โดยตั้งเป้ายอดขายที่ 20 ล้านบาทในปีนี้

ปีที่ผ่านมา ยูฟาร์ม ได้นำไก่เบญจาเปิดตัวในฮ่องกง โดยวางจำหน่ายที่ห้าง Welcome และ ห้าง Aeon นอกจากนี้ ยังส่งออกไปที่ประเทศสิงคโปร์ จำหน่ายที่ห้าง FairPrice Finest และ ร้าน Alma by Juan Amador ซึ่งเป็นร้านอาหารมิชลินสตาร์ ระดับ 1 ดาว รังสรรค์เมนูไก่เบญจาให้ชาวสิงคโปร์ได้ลิ้มลองเนื้อไก่พรีเมียมที่มีรสชาติหอม นุ่ม ฉ่ำ อร่อย จากธรรมชาติ ปลอดสาร ปลอดภัย

            Benja Chicken ผลิตภัณฑ์ไก่สดพรีเมียมจากธรรมชาติ 100 เปอร์เซ็นต์ ด้วยนวัตกรรมการเลี้ยงไก่ด้วยข้าวกล้องคัดพิเศษสูตรเฉพาะที่อุดมไปด้วยสารกาบา และสารต้านอนุมูลอิสระ มีวิตามิน B3 B6 B9 ช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อของไก่ให้มีโครงสร้างกล้ามเนื้อที่ดี จึงทำให้เนื้อไก่มีความยืดหยุ่น โครงสร้างเนื้อเป็นเกลียว ไม่ทับกันเป็นชั้นๆ เหมือนไก่ทั่วไป มีรสชาติ หอม นุ่ม ฉ่ำมากกว่าเนื้อไก่ทั่วไปถึง 55เปอร์เซ็นต์ ปลอดสาร ปลอดภัย ไม่ใช้ฮอร์โมน ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะตลอดการเลี้ยงดู พร้อมได้รับการรับรองมาตรฐานระดับโลกจาก NSF International

            สำหรับ แผนธุรกิจ 5 ปี ระหว่างปี 2562-2566 บริษัทยังคงเป้าหมายยอดขายจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 10 เและในปี 2566 จะมีรายได้รวมอยู่ที่ 800,000 ล้านบาท โดยการเติบโตจะมาการซื้อกิจการธุรกิจอาหารในต่างประเทศต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มสัดส่วนรายได้ของธุรกิจอาหารขึ้นมาเป็น 2 ใน 3 ของรายได้รวม