ครบรอบ 52 ปี การทางพิเศษแห่งประเทศไทย เดินหน้าสู่ปีที่ 53 มุ่งมั่นพัฒนาเส้นทางพิเศษเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ตอกย้ำผลงานเด่นด้วยรางวัล “Best Performance Award”
การทางพิเศษแห่งประเทศไทย หรือ กทพ. หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงคมนาคม จัดงานครบรอบ 52 ปี โดยมีนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการ กทพ. ผู้บริหาร พนักงานและลูกจ้างกทพ. โดยมีแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง
นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการ กทพ. เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 52 ปี กทพ. มุ่งมั่นพัฒนาโครงข่ายขยายเส้นทางเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจร และช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน เป็นทางเลือกที่คุ้มค่า ปลอดภัย ได้มาตรฐาน สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนไทยอย่างยั่งยืน ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม โดยปัจจุบัน กทพ. ได้เปิดให้บริการทางพิเศษรวม 8 สายทาง รวมระยะทาง 224.6 กิโลเมตร ประกอบด้วย ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทางพิเศษศรีรัช ทางพิเศษฉลองรัช ทางพิเศษบูรพาวิถี ทางพิเศษอุดรรัถยา ทางพิเศษสายบางนา-อาจณรงค์ ทางพิเศษกาญจนาภิเษก และทางพิเศษประจิมรัถยา

นอกจากนี้มีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 2 โครงการ คือ โครงการทางพิเศษสายพระราม 3 -ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ระยะทาง 18.7 กิโลเมตร ที่จะเปิดให้บริการภายในปี 2568 และโครงการทางพิเศษสายฉลองรัชส่วนต่อขยาย (ช่วงจตุโชติ-ลำลูกกา) ที่เริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในปี 2568 และมีแผนการขยายเส้นทางทางพิเศษไปยังภูมิภาคต่างๆ ได้แก่ โครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ที่จะเปิดให้บริการภายในปี 2568 และโครงการทางพิเศษสายฉลองรัชส่วนต่อขยาย (ช่วงจตุโชติ-ลำลูกกา) ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างในปี 2568 รวมทั้งการทางพิเศษฯ ยังมีโครงการสำคัญในเขตเมืองที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ได้แก่ โครงการทางยกระระดับชั้นที่ 2 (ช่วงงามวงศ์วาน – พระราม 9) โครงการทางพิเศษสายฉลองรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันออก และโครงการทางพิเศษสายศรีนครินทร์-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และยังมีแผนการขยายเส้นทางทางพิเศษไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ได้แก่ โครงการทางพิเศษจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1 (ช่วงกะทู้- ป่าตอง) และ ระยะที่ 2 (ช่วงเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้) รวมทั้งอยู่ระหว่างศึกษาความเหมาะสมโครงการทางพิเศษเชื่อมเกาะสมุย จังหวัดสุราษฏร์ธานี และโครงการทางพิเศษเชื่อมเกาะช้าง จังหวัดตราด

นอกจากภารกิจหลักในการสร้างทางพิเศษแล้ว กทพ. ยังคำนึงถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการสร้างคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน โดยที่ผ่านมาได้ดำเนินการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) ที่อาคารศูนย์บริหารทางพิเศษไปแล้วกว่า 780 กิโลวัตต์ ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้ประมาณ 3.7 ล้านบาทต่อปีลดคาร์บอนไดออกไซด์ 412.87 tonCo2e
เมื่อไม่นานมานี้ กทพ.เพิ่งเข้ารับมอบรับโล่รางวัลเกียรติยศ Best Performance Award ประเภทหน่วยงานรัฐ ระดับกรม/กระทรวง จากกิจกรรม Prime Minister Awards: Thailand Cybersecurity Excellence Award 2024 จากการคัดเลือกหน่วยงานรัฐ หน่วยงานควบคุมหรือกำกับดูแล หน่วยงานโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางสารสนเทศ ทั้งหน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานภาคเอกชน และหน่วยงานประเภทอื่น ๆ ที่มีผลการดำเนินงานด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ดีเด่นระดับชาติ โดยมีนายวุฒิชัย เกษรปทุมานันท์ ผู้อำนวยการกองคอมพิวเตอร์และเครือข่าย ฝ่ายดิจิทัล 2 เป็นผู้แทนการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เข้ารับมอบ
สำหรับรางวัลนี้จัดขึ้นโดยสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) NCSA Thailand 🇹🇭 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของหน่วยงานให้เป็นมาตรฐานสากลและมีการดำเนินการตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. 2562 ตลอดจนการสร้างความตระหนักรู้ให้กับสังคมในวงกว้าง สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. 2562