น้ำตาลมิตรกาฬสินธุ์ เดินเครื่องเต็มสูบนำอ้อยเข้าหีบ 2.9 ล้านตัน ปลื้มรับรางวัลองค์กรที่มีผลงานการส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมของภาคธุรกิจดีเด่น ระดับจังหวัดปี 68

น้ำตาลมิตรกาฬสินธุ์ จับมือผู้นำชุมชน เกษตรกรและหน่วยที่เกี่ยวข้องรณรงค์การตัดอ้อยสดแก้ปัญหาอ้อยไฟไหม้ก่อนเข้าสู่โรงงาน ขานรับนโยบายภาครัฐลดปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 และวางเป้าหมายนำอ้อยเข้าหีบ 2.9 ล้านตัน โชว์ผลงานเด่นรับรางวัล”องค์กรที่มีผลงานการส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมของภาคธุรกิจดีเด่น ระดับจังหวัด ประจำปี 2568” ด้านศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์มั่นอุตสาหกรรมน้ำตาลไทยยังเติบโตต่อเนื่อง

            นายอดุลย์ ครองเคหัง ผู้อำนวยการด้านอ้อย บริษัท น้ำตาลมิตรกาฬสินธุ์ จำกัด กล่าวว่า โรงงานน้ำตาลมิตรกาฬสินธุ์ มีชาวไร่คู่สัญญา จำนวน 11,000 ราย มีพื้นที่ปลูกอ้อยทั้งหมด 326,000 ไร่คลอบคลุมจังหวัดกาฬสินธุ์ และจังหวัดร้อยเอ็ด โดยจังหวัดกาฬสินธุ์ มีชาวไร่คู่สัญญา จำนวน 6,300 ราย มีพื้นที่ปลูกอ้อย 135,000 ไร่ ชาวไร่มีรายได้ จากการขายอ้อย 1,450-1,500 บาทต่อตัน มีการจ้างแรงงานในภาคการเกษตรมากกว่า15,000 ครัวเรือน สร้างรายได้ให้กับชาวไร่อ้อยและชุมชน มีเงินหมุนเวียนมากกว่า 13,000 ล้านบาท

            ผู้อำนวยการค้าอ้อย กล่าวต่อว่า ในปีการผลิต 2567/68 โรงงานมีเป้าหมายการนำอ้อยเข้าหีบ 2.9ล้านตัน ปัจจุบันมีปริมาณอ้อยเข้าหีบแล้ว 1.97 ล้านตัน มีปริมาณอ้อยสดจำนวน 1.48 ล้านตัน คิดเป็นร้อยละ75.13 ซึ่งโรงงานฯมีความตระหนักและให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาอ้อยไฟไหม้และลดปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 โดยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนตัดอ้อยสด สะอาดและมีคุณภาพ จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการ BIG ROCK KALASIN MODEL ลดการเผาอ้อยอย่างยั่งยืนในพื้นที่ จังหวัดกาฬสินธุ์

            นอกจากนี้ยังได้มีการขยายผลโครงการ รณรงค์ ตัดอ้อยสด ลดอ้อยไฟไหม้ รวมถึงสร้างการมีส่วนร่วมตัดอ้อยสด ลุ้นรับเสื้อ นะโม ตัดสด ครอบคลุมในพื้นที่และมีการจัดซื้อเครื่องสางใบอ้อยทั้งหมด 186 เครื่อง โดยได้สร้างการรวมกลุ่มชาวไร่ใช้เครื่องสางใบอ้อย คิดเป็นพื้นที่ตัดอ้อยสด จำนวน 93,000  ไร่ ปริมาณอ้อย 1ล้านตัน ส่งเสริมการรวมแปลงเกษตรแปลงใหญ่ โดยสร้างการรวมกลุ่มใช้รถตัดอ้อยจำนวน 81 คัน สามารถตัดอ้อยได้ จำนวน 100,000 ไร่ ปริมาณอ้อย 1.1 ล้านตัน อีกทั้งส่งเสริมเครื่องตัดใบอ้อย พร้อมรับซื้อใบอ้อย จำนวน 1 แสนตันต่อปี ในราคา 900 บาทต่อตัน

            นายอดุลย์ กล่าวอีกว่า สำหรับกิจกรรมครั้งนี้ เป็นการรณรงค์และสาธิตเครื่องสางใบอ้อยใช้แรงงานตัดอ้อยสด การตัดอ้อยโดยใช้รถตัด และการอัดใบอ้อยเข้าโรงงาน และเพื่อรับทราบนโยบายภาครัฐ และผลกระทบจากการเผาอ้อยก่อนตัด ใบอ้อยหลังเก็บเกี่ยว ตลอดจนเศษวัสดุทางการเกษตร ที่มีผลต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเป็นการสร้างการมีจิตสำนึกในการตัดอ้อยสด ตอบรับนโยบายภาครัฐในการลดฝุ่นละออง PM 2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของพี่น้องชาวไร่อ้อย และประชาชนในชุมชนพื้นที่ด้วย

            ทางด้านผลงานคุณภาพ บริษัท น้ำตาลมิตรกาฬสินธุ์ จำกัด เป็นองค์กรที่มีผลงานการส่งเสริมความรับผิด

ชอบต่อสังคมของภาคธุรกิจดีเด่น ระดับจังหวัด ประจำปี2568 เพื่อรับรางวัลCSR Award2025โดยนายนพดล จอมเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์เป็นประธานการประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนการส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมของภาคธุรกิจจังหวัดกาฬสินธุ์ (CSR)ครั้งที่1/2568โดยมีนายประนอม อุทรักษ์พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นเลขานุการคณะทำงานฯ และมีคณะทำงานฯจากส่วนราชการและภาคเอกชนที่

เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เพื่อติดตามผลการดำเนินงานของศูนย์ส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมของภาคธุรกิจ

จังหวัดกาฬสินธุ์ ระหว่างปีงบประมาณ2567ซึ่งมีการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางอย่างต่อเนื่อง

ทิศทางอุตสาหกรรมน้ำตาลปี 68
            ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) คาดว่า รายได้อุตสาหกรรมน้ำตาลในปี 68 มีแนวโน้มขยายตัว แม้จะเผชิญกับแรงกดดันจากราคาส่งออกที่ลดลง แต่ปริมาณผลผลิตที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างมากกลายเป็นแรงหนุนสำคัญที่ช่วยพยุงรายได้ของอุตสาหกรรมโดยรวม

            ในช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา โรงงานน้ำตาลทั่วประเทศปิดหีบอ้อยปีการผลิต 2567/2568 แล้ว โดยผลผลิตน้ำตาลเพิ่มขึ้น 14.4% จากปีการผลิต 2566/2567 มาอยู่ที่ 10.1 ล้านตัน ซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณอ้อยเข้าหีบที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 92.0 ล้านตัน จากปัญหาภัยแล้งที่คลี่คลาย

            อย่างไรก็ดี แม้ปริมาณผลผลิตจะเพิ่มขึ้น แต่ราคาส่งออกน้ำตาลโดยเฉลี่ยในปี 68 กลับมีแนวโน้มปรับตัวลดลงราว -11.2%YOY สอดคล้องกับราคาน้ำตาลทรายดิบส่งออกรวมพรีเมียมที่บริษัทอ้อยและน้ำตาลไทยทำได้ (ใช้อ้างอิงราคาของผู้ประกอบการรายอื่น ๆ) ที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลงจากปีการผลิตที่ผ่านมา ตามราคาน้ำตาลโลกที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ภายหลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีตอบโต้ ซึ่งส่งผลให้ตลาดกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและจะกระทบต่อความต้องการบริโภคน้ำตาลโลก