TVO ผงาดรับรางวัล “บริษัทจดทะเบียนยอดเยี่ยมแห่งปี 2019” เพิ่มผลิตชึ้นแท่นผู้นำตลาดน้ำมันถั่วเหลืองแห่งภูมิภาคอาาเซียน

น้ำมันพืชไทย ปลื้มรับรางวัลบริษัทจดทะเบียนยอดเยี่ยมแห่งปี 2019  เข้มเดินเครื่อง 3  โครงการใหญ่ วางเป้าผลิตน้ำมันถั่วเหลือง 500 ตันต่อวัน ผลิตเมล็ดคาโนล่า 500 ตันต่อวัน และโรงบรรจุน้ำมันบริสุทธิ์ที่ทันสมัยได้ 378,000 ขวดต่อวัน  พร้อมปรับโฉมขวดใหม่เพิ่มความสะดวกให้ผู้บริโภค ด้านธุรกิจอาหารสัตว์มั่นใจตลาดโตต่อเนื่อง

            นายบวร วงศ์สินอุดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำมันพืชไทย จำกัด (มหาชน)(TVO) ภายใต้แบรนด์ “องุ่น”  กล่าวว่า บริษัทได้รับรางวัลจดทะเบียนยอดเยี่ยมแห่งปี 2019 ในครั้งนี้ มาจากผลการดำเนินงานจากปีที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 25,326 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 2.1 เปอร์เซ็นต์ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,867.44 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 2.31 บาท เพิ่มขึ้นถึง 40 เปอร์เซ็นต์ จากปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากความทุ่มเทและร่วมแรงร่วมใจกันของพนักงานทุกคน ปี 2561 จึงนับเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลง ที่ได้ปรับปรุงโครงสร้างการบริหาร บุคลากรในสายงานต่างๆ เพื่อให้มีความเหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม และเตรียมความพร้อมรองรับการขยายกำลังการผลิตด้วยการดำเนินงานที่คำนึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อการเติบโตขององค์กรอย่างยั่งยืน ซึ่งรางวัลดังกล่าวจัดขึ้นโดย “วารสารการเงินธนาคาร” ที่ได้จัดอันดับ 300 บริษัทจดทะเบียนยอดเยี่ยมแห่งปี 2019 นับเป็นบทพิสูจน์ความสำเร็จของบริษัทจดทะเบียนที่ยังสามารถสร้างผลประกอบการ ได้อย่างโดดเด่นและแข็งแกร่ง
            นายบวร กล่าวถึงการเพิ่มศักยภาพการผลิตต่อว่า ปัจจุบัน TVO มีกำลังการผลิตน้ำมันถั่วเหลือง 6,000 ตัน ต่อวัน ถือเป็นโรงงานสกัดน้ำมันถั่วเหลืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน ตั้งอยู่ที่อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม โดยตลาดรวมของน้ำมันพืชในประเทศไทยนั้น น้ำมันปาล์มมีสัดส่วนอยู่ที่ 70 เปอร์เซ็นต์ น้ำมันถั่วเหลือง 24 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งน้ำมันถั่วเหลืองแบรนด์องุ่นมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 64 เปอร์เซ็นต์ เป็นเบอร์ 1 ในตลาดน้ำมันถั่วเหลืองด้านตลาดต่างประเทศ (ผลิตภัณฑ์น้ำมันถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์วัตถุดิบอาหารสัตว์จากถั่วเหลือง) มีสัดส่วนอยู่ที่ 8 เปอร์เซ็นต์ จากความต้องการผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 กลุ่มในประเทศไทยมีปริมาณสูง โดยเฉพาะกลุ่มวัตถุดิบอาหารสัตว์ ทำให้ TVO เน้นรองรับความต้องการของคนในประเทศไทยก่อน แต่ในขณะเดียวกันก็เริ่มทำตลาดต่างประเทศควบคู่ไปด้วย เพราะเมื่อสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้เพียงพอ ก็พร้อมที่จะทำตลาดต่างประเทศเต็มตัวได้ทันที โดยเน้นไปยังประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ เป็นหลัก

          สำหรับธุรกิจน้ำมันถั่วเหลืองนั้น ปัจจุบันผู้บริโภคเริ่มให้ความสำคัญเรื่องโภชนาการในการบริโภคที่ดีขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของ TVO ที่ต้องการสนับสนุนให้มีการบริโภคน้ำมันที่ครบถ้วนทุกประเภท ทั้งน้ำมันอิ่มตัว น้ำมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว และน้ำมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน ซึ่งดีต่อสุขภาพมากกว่าการบริโภคน้ำมันแบบใดแบบหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ TVO พยายามค้นคว้าอย่างต่อเนื่องเพื่อผลิตน้ำมันถั่วเหลืองที่ช่วยเสริมโภชนาการของผู้บริโภคให้ดียิ่งขึ้น

            “โภชนาการในการบริโภคน้ำมันที่ดีนั้น ควรมีการบริโภคประเภทน้ำมันที่มีไขมันอิ่มตัว ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว และไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (น้ำมันถั่วเหลือง) ในอัตราที่เท่ากัน โดยในอนาคตอาจมีนวัตกรรมที่สามารถทำให้น้ำมัน ทั้ง 3 ประเภทรวมอยู่ในขวดเดียวกันได้ เพื่อประโยชน์ทางโภชนาการที่ดีขึ้นของผู้บริโภค” นอกจากเป้าหมายด้านโภชนาการแล้ว TVO ยังมีโครงการพัฒนาด้านกำลังผลิตและเพิ่มศักยภาพการผลิตอีก 3 โครงการ เริ่มจาก

          1. โครงการปรับปรุงโรงสกัดเมล็ดถั่วเหลืองเพื่อปรับกระบวนการทำงานและการบำรุงรักษาในโรงงานใหม่ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิม มีการปรับระบบการจัดการโรงงานให้สามารถเพิ่มกำลังผลิตน้ำมันถั่วเหลืองได้ต่อเนื่องและยาวนานมากขึ้น ส่งผลให้กำลังการผลิตน้ำมันถั่วเหลืองจะเพิ่มขึ้นประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์หรือเฉลี่ย 500 ตันต่อวัน ซึ่งจะทำให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้น 2,800 ล้านบาทต่อปี (กรณีเดินเครื่องเต็มตลอดปี)

          2. โครงการผลิตผลิตภัณฑ์จากเมล็ดคาโนล่ามีกำลังการผลิตเมล็ดคาโนล่า 500 ตันต่อวัน ทำให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้น 2,800 ล้านบาทต่อปี (กรณีเดินเครื่องเต็มตลอดปี) โดยถือเป็นอีกสายผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ TVO จะนำออกสู่ตลาดในปีนี้ ตอบโจทย์กลุ่มคนที่รักสุขภาพ และข้อดีของหน่วยการผลิตนี้คือ สามารถเปลี่ยนกลับมาผลิตผลิตภัณฑ์จากเมล็ดถั่วเหลืองได้หากความต้องการในกลุ่มถั่วเหลืองยังมีอยู่สูง

          3. โครงการโรงบรรจุน้ำมันบริสุทธิ์มีการใช้ระบบอัตโนมัติที่ทันสมัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบรรจุน้ำมันบริสุทธิ์ ทำให้สามารถบรรจุขวดขนาด 1 ลิตรได้เร็วขึ้น กำลังการบรรจุ 378,000 ขวดต่อวัน หรือ 118 ล้านขวดต่อปี ช่วยรองรับตลาดส่งออก

            นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงรูปแบบขวดใหม่ทำให้จับถนัดมือ ปรับฝาขวดใหม่ทำให้เทน้ำมันได้ลื่นไหล สะดวกต่อการใช้งานยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยลดการใช้พลาสติกในกระบวนการผลิตขวดอีกด้วย และในปีนี้เราสามารถผลิตน้ำมันคาโนล่าเองเพื่อจำหน่ายภายใต้แบรนด์องุ่นเป็นที่เรียบร้อย ในปีหน้าจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มเข้ามาอีก

          นายบวร กล่าวตอนท้ายว่า ส่วนธุรกิจอาหารสัตว์ถือเป็นธุรกิจที่มีโอกาสสูงและยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นการนำเมล็ดถั่วเหลืองมาสกัดเอาน้ำมันออก ได้เป็นกากถั่วเหลืองใช้ทำเป็นอาหารสัตว์ส่งจำหน่ายให้กับฟาร์มต่างๆ ซึ่งธุรกิจอาหารสัตว์ในประเทศไทยถือเป็นตลาดที่ใหญ่มาก มีความต้องการใช้อาหารสัตว์มากถึง 20 ล้านตันต่อปี โดยวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ทำจากถั่วเหลืองมีสัดส่วนประมาณ 5 ล้านตันของตลาดรวม ปัจจุบันผู้ผลิตอาหารสัตว์จากถั่วเหลืองในประเทศไทยทั้งหมดสามารถผลิตได้เพียง 2 ล้านตันเท่านั้น ทำให้จำเป็นต้องนำเข้าจากต่างประเทศอีก 3 ล้านตัน ซึ่ง TVO เล็งเห็นโอกาสและมุ่งจะขยายกำลังผลิตเพิ่มเพื่อตอบสนองความต้องการภายในประเทศ TVO ยังมองถึงการต่อยอดจากผลิตภัณฑ์น้ำมันถั่วเหลืองและวัตถุดิบอาหารสัตว์ ในปีหน้าจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาด เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่มีคุณสมบัติทางโภชนาการดีขึ้น ตอบโจทย์ความต้องการของเกษตรกรผู้ใช้อาหารสัตว์ได้มากขึ้น และเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ของบริษัทอีกด้วย