RISLAND ปักหมุดทำเลทองตอกเสาโครงการ “Skyries Avenue Sukhumvit 64” คอนโดมิเนียมใหญ่ที่สุดย่านสุขุมวิทมูลค่ารวม 15,000 ลบ. อัดพื้นที่สีเขียวมากกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ พร้อมเปิดพรีเซลล์ 1 สิงหาคมปีนี้
บริษัท ริสแลนด์ (ประเทศไทย) จำกัด (RISLAND) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศฮ่องกง เปิดตัวโครงการใหม่ล่าสุด Skyries Avenue Sukhumvit 64 มูลค่า 15,000 ลบ. โครงการขนาดใหญ่ที่สุดบนทำเลศักยภาพในราคาที่เอื้อมถึง คาดเปิดพรีเซลล์ภายใน 1 สิงหาคม ปี 2565
ดร.จาง เหลียงกัง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ริสแลนด์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ริสแลนด์ร่วมพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในไทยเข้าสู่ปีที่ 5 นับได้ว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มียุทธศาสตร์และมีทำเลศักยภาพสูง ที่ผ่านมาได้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเป็นคอนโดมิเนียม 6 โครงการ ได้แก่ อาร์ติซาน รัชดาฯ (Artisan Ratchada) คลาวด์ ทองหล่อ-เพชรบุรี (Cloud Thonglor-Phetchaburi) คลาวด์ สุขุมวิท 23 (Cloud Sukhumvit23) เดอะ ลิฟวิน เพชรเกษม (The Livin Petchkasem) สกายไรซ์ อเวนิว สุขุมวิท 64 (Skyrise Avenue Sukhumvit 64) เดอะ ลิฟวิน รามคำแหง (The Livin Ramkhamhaeng) และโครงการบ้านเดี่ยว-บ้านแฝด 1 โครงการ คือ เลคซีรีน พระราม 2 (Lake Serene) มูลค่ารวมกว่า 50,000 ล้านบาท
สำหรับ โครงการ Skyries Avenue Sukhumvit 64 นับเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่สุดของริสแลนด์ ประเทศไทย โดยตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพถนนสุขุมวิท และเป็นโครงการที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในย่านนี้ ด้วยขนาดพื้นที่กว่า 22 ไร่ โดยเป็นคอนโดมิเนียมแบบไฮไรส์ จำนวน 4 อาคาร (เฟสที่ 1) โดยมี อาคารสูง 46 ชั้น 1 อาคาร, อาคารสูง 48 ชั้น จำนวน 2 อาคาร และอาคารสูง 49 ชั้น จำนวน 1 อาคาร มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 1,961 ยูนิต โดยเฟส 1 มีมูลค่าถึง 9,060 ล้านบาท จากมูลค่ารวมทั้งโครงการกว่า 15,000 ล้านบาท มาพร้อมพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่กว่า 40 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้กลายเป็นโอเอซิสใจกลางเมือง ที่สร้างชีวิตที่สมบูรณ์แบบทั้งการทำงาน การพักผ่อนให้กับผู้อยู่อาศัย เปิดพรีเซลล์ 1 สิงหาคม นี้ ในราคาที่เอื้อมถึง เริ่มต้น 2.49 ล้านบาท
“พื้นที่ภายในห้องก็ถูกออกแบบให้มีจุดเด่นมาในหลายสไตล์การอยู่อาศัยทั้งรูปแบบครัวเปิดและครัวปิด ห้องนั่งเล่นแบบเข้ามุมหรือจะเป็นแนวกระจกโค้งขนาดใหญ่ภายในห้องนอน อ่างอาบน้ำรับวิวพื้นที่ภายนอก รวมไปถึงการตกแต่งวัสดุภายในห้อง ทั้งเฟอร์นิเจอร์ Built-in ที่ได้คำนึงถึงการใช้งานจริง เช่น ชั้นวางรองเท้าและตู้วางของบริเวณหน้าห้อง ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ที่สามารถใส่กระเป๋าเดินทางได้ ซึ่งทั้งหมดอยู่บนแนวคิดของการใช้งานได้จริงของผู้อยู่อาศัย และสามารถรองรับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปได้ ซึ่งประกอบด้วยห้องชุดขนาดต่างๆ ได้แก่ ห้อง 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ 28 – 35 ตารางเมตร, ห้อง 2 Bedrooms 1 Bathroom ขนาดพื้นที่ 45 ตารางเมตร, ห้อง 2 Bedrooms 2 Bathrooms ขนาดพื้นที่ 55 ตารางเมตร, ห้อง 3 Bedrooms 2 Bathrooms ขนาดพื้นที่ประมาณ 73 ตารางเมตร, ห้อง 3 Bedrooms 3 Bathrooms ขนาดพื้นที่ประมาณ 87 – 100 ตารางเมตร และยังเพิ่มความพิเศษด้วยการออกแบบห้องชุดในรูปแบบ ห้อง Loft ขนาด 35 – 55 ตารางเมตร โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 2 / 2567”
Skyrise Avenue Sukhumvit 64 ถูกพัฒนาภายใต้แนวคิด Harmonic Living Arise สมดุลชีวิตใหม่ใจกลางเมือง” มีความโดดเด่นใน 3 ส่วนหลัก ได้แก่ The Living Area แบ่งสัดส่วนของห้องพักต่อ 1 ชั้นให้มีเพียง 11 ยูนิตเท่านั้น และพื้นที่พิเศษ 3 ชั้นบนสุดที่จะมีเพียง 5 ยูนิต เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้พักอาศัยมากขึ้น และยังสามารถชมวิวความสวยงามของโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งบางกระเจ้าได้จากระเบียงห้องตัวเอง The Recreation Area จัดสรรพื้นที่ให้ส่วนกลางให้ใช้งานได้จริง และเพิ่มความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวภายในโครงการ เช่น สวนสุขภาพ ที่ทุกคนสามารถออกกำลังกายหรือพักผ่อน เปรียบเป็นโอเอซิสใจกลางเมือง โดยมีพื้นที่สีเขียวมากถึงกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ พร้อมด้วยพรรณไม้กว่า 100 ชนิด และพร้อมสรรพไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทั้ง indoor และ outdoor ที่กระจายอยู่ภายในตัวอาคาร ทั้ง 3 อาคาร อาทิ Swimming Pool ขนาด 500 ตร.ม. เทียบเท่าสระโอลิมปิก, Co-working space, Podcast Station, Fitness, Co-Kitchen Space, Family area, Sauna room และโซนออกกำลังกายต่าง ๆ อาทิ Fitness และ Basketball (Half Court) เป็นต้น
The Car Safety Area พื้นที่จอดรถยังเป็นส่วนที่โครงการให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ โดยส่วนของที่จอดรถจะถูกนำไปไว้ใต้ดินทั้งหมด จำนวน 2 ชั้น เพื่อให้ได้ทัศนียภาพที่สวยงามและที่จอดรถคิดเป็น 46 เปอร์เซ็นต์ไม่รวมซ้อนคัน อย่างไรก็ตามคาดว่าในอีก 4 ปีข้างหน้า จะมีอาคารสำนักงาน และพื้นที่พาณิชย์ที่จะเกิดขึ้นในเฟส 2 ซึ่งคาดว่าจะสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัยในโครงการ
การออกแบบถูกออกแบบโดย บริษัท ดวงฤทธิ์ บุนนาค จำกัด มีการออกแบบให้สอดคล้องกับแนวคิดที่มีความเป็น Modern Minimal และดูเรียบง่าย รวมไปถึงการวางผังต่างๆไม่ว่าจะเป็นการแยกพื้นที่พักอาศัยและพื้นที่ส่วนกลางออกจากกันอย่างชัดเจน การออกแบบพื้นที่จอดรถให้อยู่ใต้ดินทั้งหมด เพื่อมุมมองและบรรยากาศภายในโครงการ รวมไปถึงการวางแนวอาคารให้หันเหลื่อมกันที่สัมพันธ์กับผังของอาคาร ทำให้เกิดเป็นผังห้องในแบบต่าง ๆ ที่หลากหลาย และสามารถเพิ่มตัวเลือกในการอยู่อาศัยที่เข้ากับ Lifestyle มากที่สุด
การเดินทางสะดวก ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีปุณณวิถี เพียง 450 เมตร ซึ่งทำเลศักยภาพสุขุมวิทตอนปลาย ถือเป็นทำเลที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง สามารถเดินทางเชื่อมต่อกับย่านธุรกิจไม่ว่าจะเป็น โซนเพลินจิต, ชิดลม และสยามได้อย่างสะดวกสบาย ครบครันด้วยสถานที่สำคัญที่รองรับไลฟ์สไตล์ ทั้งศูนย์การค้า, อาคารสำนักงาน, สถานศึกษา, โรงพยาบาล รวมไปถึงสถานที่สำคัญต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนมากมาย และที่กำลังจะเกิดขึ้นใหม่อย่างบางกอก มอลล์ ซึ่งหากมองในแง่การลงทุน ราคาคอนโดมิเนียมบริเวณสุขุมวิทตอนปลาย ณ ปัจจุบัน มีราคาเฉลี่ยประมาณ 160,000 – 180,000 บาทต่อตารางเมตร และมี Rental Yield เฉลี่ยอยู่ที่ 5 – 8 เปอร์เซ็นต์