ไฟฟ้าหงสาครบ 3 ปีการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหิน เปิดมุมสะท้อนโครงการใหญ่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและชุมชุน

บริษัท ไฟฟ้าหงสา จำกัด ผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานความร้อนจากถ่านหินโดยมีบริษัทบ้านปูพาวเวอร์ จำกัด ถือหุ้น 40 เปอร์เซ็นต์ บริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้งจำกัด(มหาชน) ถือหุ้น 40 เปอร์เซ็นต์ และรัฐวิสาหกิจลาวถือหุ้น 20 เปอร์เซ็นต์ โดยมีอายุสัมปทาน 25 ปี ระหว่างปี 2559-2584 มีกำลังการผลิต 1,878 เมกะวัตต์ ขายให้กับการไฟฟ้าแห่งประเทศไทย 1,473 เมกะวัตต์ และรัฐวิสาหกิจลาว 100 เมกะวัตต์

แม้จะเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนจากถ่านหิน แต่สภาพแวดล้อมของโรงไฟฟ้าหงสารวมถึงพื้นที่ใกล้เคียงกลับเต็มไปด้วยสีเขียว และจะเห็นได้ชัดว่าวิถีชีวิตและการทำมาหากินของชาวบ้านในเมืองหงสาผูกพันกับโรงไฟฟ้าหงสาซึ่งถือเป็นโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่สุดโครงการหนึ่งเป็นอย่างมาก

ถึงแม้จะตั้งอยู่ใกล้ความชุมชน บริษัทได้มีการตั้งเกณฑ์มาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมไว้สูงมาก ด้วยการติดตั้งเครื่องมือการดักจับฝุ่น และสิ่งปลอมปน อาทิ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์อยู่ที่ระดับ 0.7เปอร์เซ็นต์(ต่ำกว่าเกณฑ์ 1.0%) มีเจ้าหน้าที่จากองค์กรระดับสากลมาคอยช่วยให้คำแนะนำ และจะมีการปรับแผนงานทุกๆ 5 ปี

โรงไฟฟ้าแห่งนี้ใช้เครื่องและเทคโนโลยีจากสาธารณรัฐประชาชนจีนต่างไปจากการยอมรับเดิมที่มักใช้เทคโนโลยีจากยุโรปหรืออเมริกา เรื่องนี้เป็นความท้าทายของผู้บริหารที่อาจต้องใช้เวลาเป็นในการพิสูจน์ให้เป็นที่ยอมรับกันในอนาคต

อย่าตามสัญญาของใบอนุญาตของโครงการระบุว่าต้องมีการดูแลชุมชนเดิมที่ตั้งอยู่บริเวณนั้นประมาณ 450 ครอบครัว รวมถึงดูแลสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับดูแลคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้อาศัย เช่น การสำรวจทรัพย์สินอย่างละเอียด มีการชดเชยให้ไม่น้อยไปกว่าสิ่งที่พวกเขามีอยู่ สร้างบ้านใหม่ มอบที่ดินให้บ้านละ 2 เฮกตาร์ หรือ 12 ไร่ เพื่อใช้ทำกิน รวมถึงมีการฝึกอาชีพอีกด้วย

นายคทายุทธ์ ชูพูล กรรมการผู้จัดการบริษัทไฟฟ้าหงสาจำกัด เปิดเผยว่า แนวทางการทำงานที่่บริษัทยึดมั่นมาตลอดคือต้องเข้าใจในนโยบายภาครัฐของสปป.ลาวและเข้าใจถึงทิศทางการลงทุนรวมถึงผู้ถือหุ้น ถ้าสองอย่างนี้ไม่ชัดเจนโครงการใหญ่เช่นนี้คงเกิดขึ้นไม่ได้ประการต่อมาก็คือความเชื่อมั่นของแหล่งเงินกู้ ซึ่งความเชื่อมั่นดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้ก็ต้องมาจากเสถียรภาพของธุรกิจ ขณะเดียวกันธรรมาภิบาลจากบริษัทแม่ก็มีความสำคัญอย่างยิ่งด้วยเช่นกัน

นโยบายภาครัฐต้องมีความชัดเจนมั่นคงเช่นเดียวกับแผนการทำธุรกิจก็ต้องชัดเจนว่าจะมาลงทุนประเภทไหน ลูกค้าคือใคร ต้องแยกแยะสิ่งที่จะเป็นปัญหาในการดำเนินโครงการให้ชัดเจน นอกจากนั้นต้องลดผลกระทบต่อชุมชนข้างเคียง ซึ่งทางบริษัทไฟฟ้าหงสาก็ทำความเข้าใจกับทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง การเกิดปัญหาระหว่างการทำธุรกิจเป็นเรื่องปกติ แต่เราต้องมีคำอธิบายชี้แจงที่สุดก็จะทำให้เกิดความเข้าใจ

นายคทายุทธ์บอกว่า ที่สำคัญคือนักลงทุนไม่ว่าจะไปลงทุนที่ไหนต้องมีความตรงไปตรงมา ซึ่งบริษัทไฟฟ้าหงสายึดมั่นในการดำเนินธุรกิจตามแนวทางเช่นนี้มาโดยตลอด การทำธุรกิจเป็นเรื่องที่ต้องได้มาซึ่งผลประกอบการเป็นที่พอใจ แต่ไม่ใช่ความสำเร็จสูงสุดหากได้มาแล้วทำให้คนอื่นเดือดร้อนก็ไม่ถือเป็นความสำเร็จ และที่จะลืมไม่ได้คือบุคลากรของบริษัทซึ่งเรามีพันธกิจต้องทำให้เขามีความรู้ความชำนาญในการดำเนินงานและปฏิบัติงานทั้งในส่วนของโรงไฟฟ้าและเหมืองแร่ เพราะเราเชื่อว่าวิสัยทัศน์องค์กรไม่สามารถสร้างจากคนข้างนอกได้แต่ต้องสร้างจากคนข้างใน

กรรมการผู้จัดการบริษัทไฟฟ้าหงสาเปิดเผยว่า ผู้ที่ต้องการจะเข้ามาทำธุรกิจในลาวต้องมีเข้าใจรอบด้าน อย่าคิดเพียงว่ามีเงินก็มาลงทุนได้เพราะเงินไม่สามารถซื้อได้ทุกอย่างบางอย่างเป็นเรื่องที่ต้องสร้างความเชื่อมั่นซึ่งบางครั้งไม่ต้องใช้เงินนักธุรกิจที่เข้าไปทำงานในประเทศต่างๆต้องเข้าในพื้นฐานวัฒนธรรมของประเทศนั้นๆให้ดีแล้วเราจะอยู่กับเขาได้อย่างสนิทใจ

โรงไฟฟ้าแห่งนี้เปิดเดินเครื่องผลิตไฟฟ้ามาประมาณ 3 ปี ซึ่งสัมผัสและสะท้อนผลจากการดำเนินงานได้ว่า โครงการขนาดใหญ่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและชุมชนนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จริง ตราบที่ทุกฝ่ายมีความจริงใจและมุ่งมั่นผลักดันให้การพัฒนาช่วยให้ทุกฝ่ายเดินหน้าไปได้พร้อมๆ กัน