โตโยต้า ทูโช (ไทยแลนด์) รับสถานประกอบกิจการดีเด่นด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการแรงงาน ประจำปี 2562 ติดต่อกันปีที่ 5 เปิดแผนธุรกิจเพิ่มสัดส่วนธุรกิจที่ไม่ใช่อุตสาหกรรมรถยนต์มากขึ้น ตามนโยบายบริษัทแม่

บริษัท โตโยต้า ทูโช (ไทยแลนด์) จำกัด ดำเนินธุรกิจนำเข้า-ส่งออก ธุรกิจการบริการ ธุรกิจซื้อขาย และธุรกิจค้าปลีกทั้งในประเทศและต่างประเทศเป็นระยะเวลามากกว่า 60 ปี ปัจจุบันมีธุรกิจร่วมทุนกับบริษัทต่างๆมากกว่า 79 บริษัท ภายใต้นโยบายของ บริษัท โตโยต้า ทูโช คอร์เปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น

            ล่าสุดเข้ารับรางวัลสถานประกอบกิจการดีเด่นด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการแรงงาน 5 ปีติดต่อกัน ระหว่างปี 2558-2562 โดยถูกจัดอยู่ในสถานประกอบกิจการขนาดกลาง ประเภทไม่มีสหภาพแรงงาน รางวัลดังกล่าวจัดโดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน ซึ่งมีการจัดในขึ้นในทุกปี

            นางสาวอนุษฐา เชาว์วิศิษฐ ผู้จัดการฝ่ายวางแผนองค์กรบริษัท โตโยต้า ทูโช (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้ากลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ ในสัดส่วน 80 เปอร์เซ็นต์ส่วนที่เหลือเป็นสินค้าที่ไม่ใช่กลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์  ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าอุปโภคบริโภค อาทิ ชุดยูนิฟอร์ม  เม็ดพลาสติก อาหารทะเลแช่แข็งในสัดส่วน 20 เปอร์เซ็นต์  ซึ่งเป็นการดำเนินธุรกิจในรูปแบบบีทูบี  โดยนโยบายของบริษัทแม่ที่ประเทศญี่ปุ่นต้องการให้เพิ่มสัดส่วนสินค้าทั้ง 2 กลุ่มให้มีสัดส่วนเท่ากัน แต่เบื้องต้นภายในระยะ 3 ปีหรือภายในปี 2563  ต้องการเพิ่มสัดส่วนเป็น 25-30 เปอร์เซ็นต์

สำหรับในปี  2563 คาดว่าประชากรโลกจะมีจำนวนเพิ่มขึ้น ประเทศไทยถือเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ 1 ใน 5 ที่ผลิตและส่งออกอาหาร รวมถึงการแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหารที่สำคัญของโลก นอกจากนี้ประเทศไทยยังมีทรัพยากร ธรรมชาติที่สมบูรณ์ ฤดูกาลเพาะปลูกที่มีตลอดทั้งปี ค่าแรงต้นทุนต่ำแรงงาน มีทักษะฝีมือความชำนาญสูง มีความรู้ความสามารถ ปัจจัยเหล่านี้จึงเป็นจุดเด่นที่ทำให้ประเทศไทยได้เปรียบในเวทีตลาดแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหาร

            อย่างไรก็ตาม บริษัท โตโยต้า ทูโช คอร์ปอเรชั่น ได้เข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัท Novaagri Infra-Estrutura De Armazenagem e Escoamento Agricola S.A. เพื่อการบริหารการจัดการคลังสินค้า การขนส่งทางรถไฟ และเป็นฐานการส่งออกไปยังตอนกลางและตอนเหนือของบราซิล การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้จะทำให้กลุ่มบริษัท TTC ขยายธุรกิจจากการจัดเก็บธัญพืชขั้นพื้นฐานไปสู่การบริหารการจัดการเพื่อการส่งออก โดยสินค้าโภคภัณฑ์และธัญพืชได้แก่ ข้าว น้ำตาล แป้งมันสำปะหลัง ข้าวสาลี แป้งสาลี ถั่ว ฯลฯ อาหารได้แก่ ซูริมิ ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากซูริมิ อาหารกระป๋อง น้ำปลา ไวน์ อาหารแช่แข็ง อาหารอบแห้ง อาหารทะเล ข้าวอบกรอบ และขิงดอง โดยผ่านเครือข่ายของบริษัทที่มีอยู่ทั่วโลก

ยุทธศาสตร์ธุรกิจในไทย สอดคล้องกับบริษัทแม่จากญี่ปุ่น ที่มุ่งขยายพอร์ตโฟลิโอกลุ่มธุรกิจ Non-Automotive มากขึ้น โดยที่ผ่านมาเน้นอุตสาหกรรมหนัก แต่นับจากนี้จะรุกเข้าตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค ด้วยการเป็น Trading แบรนด์ผลิตภัณฑ์ของกินของใช้ในชีวิตประจำวันจากญี่ปุ่น กระจายเข้าสู่ช่องทางห้างสรรพสินค้า รวมถึงอนาคตมีแผนจะเปิดช่องทางขายออนไลน์เนื่องจากเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจที่ว่า คนไทยชื่นชอบแบรนด์และสินค้าจากญี่ปุ่น

            เพื่อเป็นการตอกย้ำผู้นำเทรดดิ้งเฮ้าส์รายใหญ่ในประเทศไทย บริษัทได้จัดงาน “TOYOTSU JAPAN FESTIVAL 2019” (โตโยสึ เจแปน เฟสติวัล 2019) เทศกาลสินค้าและอาหารจากประเทศญี่ปุ่นครั้งยิ่งใหญ่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมร่วมกับ บริษัท การบินไทย จำกัด แนะนำเส้นทางบินใหม่สู่เซนได ประเทศญี่ปุ่น ศูนย์กลางของภูมิภาคโทโฮคุ จุดหมายปลายทางใหม่ของนักท่องเที่ยว พร้อมจำหน่ายบัตรโดยสารราคาพิเศษ โดยจะเริ่มให้บริการในวันที่ 29 ตุลาคม ปี 2562             นายคิโยโยชิ โอบะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า ทูโช (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท โตโยต้า ทูโช คอร์ปอร์เรชั่นซึ่งเป็นบริษัทแม่ที่ประเทศญี่ปุ่น ได้รุกธุรกิจใหม่ในการบริหารจัดการสนามบินเซนไดในประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากเป็นหนึ่งในภารกิจหลักของ โตโยต้า ทูโช คอร์ปอร์เรชั่น กับการต่อยอดนโยบายการเพิ่มธุรกิจในฟาก Non Automotive ให้มากขึ้น จากที่มีอยู่ราวๆ 10 เปอร์เซ็นต์ ขยับเป็น 20-30 เปอร์เซ็นต์ ในอีก 5 ปีข้างหน้า