แสนสิริ เฮสรุปยอด 9 เดือนรับยอด 24,000 ลบ. เปิดเพิ่ม 11 โครงการมูลค่า 26,000 ลบ. มั่นใจสิ้นปีโตตามเป้า 4 หมื่นลบ.

นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) (SIRI) เปิดเผยว่าในไตรมาส 4 แนวโน้มภาพรวมเศรษฐกิจคาดว่าจะเติบโตประมาณ 3-4 เปอร์เซ็นต์โดยมีแรงหนุนจากการฟื้นตัวของการใช้จ่ายในประเทศและภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตต่อเนื่อง บริษัทมีแผนเปิดตัวใหม่11 โครงการ มูลค่ารวม 26,000 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 7 โครงการ มูลค่ารวม 13,000 ล้านบาท

คอนโดมิเนียม 4 โครงการ 13,000 ล้านบาท

สำหรับแผนการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ แบ่งเป็นโครงการภายใต้ บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง 1 โครงการ มูลค่า 4,000 ล้านบาทและแสนสิริ 3 โครงการ 9,000 ล้านบาท ซึ่งจะส่งให้ในปีนี้แสนสิริพัฒนาที่อยู่อาศัยรวม 19 โครงการ มูลค่า 44,700 ล้านบาท

กรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ผลการดำเนินธุรกิจ 9 เดือนของปี 2560 บริษัทมียอดขาย 24,000 ล้านบาท เติบโตเกือบ 20 เปอร์เซ็นต์ โดยยอดขายในรอบ 9 เดือนของปีนี้มาจากยอดขายจากโครงคอนโดมิเนียม 14,000 ล้านบาท ที่เหลือเป็นยอดขายจากแนวราบ 10,000 ล้านบาท ล่าสุดบริษัทยังสามารถปิดการขายโครงการคอนโดมิเนียม เดอะ เดค ป่าตอง (THE DECK) มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท อย่างไรก็ตามบริษัทได้ตั้งเป้ายอดขายในไตรมาสสุดท้าย 16,000 ล้านบาท

จับตาทิศทางรอยต่ออสังหาฯ ปี 2560สู่ปี 2561

นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย เผยว่า ปี 2560 เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่วงการ โดยผู้ประกอบการรายใหญ่ 10 รายครองส่วนแบ่งตลาด 53 เปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้น เมื่อรายใหญ่ปรับตัวมีผลทำให้โครงสร้างตลาดรวมเปลี่ยนและเป็นการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วมาก

สถานการณ์การโอนมองว่าเป็นทุกขลาภ คอนโดมิเนียมตลาดกลาง-ล่างมียอดยกเลิกไม่รับโอน 40 เปอร์เซ็นต์ รวมนักเก็งกำไร ขณะที่ทาวน์เฮาส์ผ่อนดาวน์สั้นๆโอนใน 1 เดือน มียอดปฏิเสธสินเชื่อ 9เปอร์เซ็นต์ ถือว่าไม่สูง ภาพรวมการโอนตลาดโต 2เปอร์เซ็นต์ ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล แต่การเปิดตัวใหม่ลด -12เปอร์เซ็นต์ นี่คือสัญญาณที่ดี เพราะผู้ประกอบการหันไปดูดซับสต๊อกคงค้างในระบบ

ส่วนต่างจังหวัด 6 จังหวัดที่มีขนาดตลาดใหญ่รองจากกรุงเทพฯ ได้แก่ เชียงใหม่ ชลบุรี ภูเก็ต ขอนแก่น ระยอง สงขลา ตลาดรวมปีที่แล้วโต 12 เปอร์เซ็นต์ คอนโดฯโต 16 เปอร์เซ็นต์ มาจากการลดแลกแจกแถม กับโตจากบริษัท CPN ขณะที่ตลาดดีคือทาวน์เฮาส์โต 13 เปอร์เซ็นต์

การเปิดตัวโครงการใหม่เริ่มเสถียร ชลบุรีอยู่ที่ 50,000 ยูนิต, ภูเก็ตมีกาล่าเซลทั้งเกาะเมื่อปีที่แล้ว อยู่ที่ 20,000 ยูนิต, เชียงใหม่นิวพีคที่ 12,000-13,000 ยูนิต, ขอนแก่นเริ่มสมดุลที่ 3,000-4,000 ยูนิต, ระยองเสถียรมานานแล้ว, สงขลาก็เริ่มเสถียรเช่นกัน และวันนี้ คอนโดฯ ในต่างจังหวัดยังไม่มีซัพพลายใหม่เปิดเพิ่มแต่อย่างใด

นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร มองว่า แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยปีนี้น่าจะยังไม่ปรับขึ้น โดยคาดว่าคณะกรรมการการเงิน หรือ กนง. ไปปรับในปี 2561 แทน โดยภาพรวมเศรษฐกิจครึ่งปีแรกโครงการลงทุนภาครัฐยังไม่ออกมา ให้จับตาช่วงหลังให้ดี ประเมินว่ารัฐบาลต้องเร่งลงทุน ขอเตือนระวังความเสี่ยงปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้งต้องเตรียมรับมือให้ได้เพื่อไม่ให้มีปัญหาความเชื่อมั่นรวมทั้งต้องระวังเพราะไทยอยากฟื้นตัวด้วยหวังพึ่งยอดส่งออกแต่เศรษฐกิจโลกจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้หรือไม่

“ปีนี้ตลาดอสังหาฯเติบโตแบบทรงตัว อย่ามองภาพเป็นบวก 100 เปอร์เซ็นต์ มองว่าบริษัทใหญ่บอกว่าได้เปรียบรายเล็กแต่มีมุมอยู่ว่าก็มีแรงกดดันต้องสร้างอัตราเติบโตตลอด ขณะที่บริษัทเล็กไม่มีแรงกดดันจึงมีสิทธิเลือกลงทุนตามจังหวะเวลาไม่ต้องสนใจเรื่องการจัดอันดับ โดยการลงทุนจึงต้องดูจังหวะให้ดี”

นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร  เผยต่อว่า อยากเห็นดีเวลอปเปอร์อยู่กันอย่างภราดรภาพ โตไปด้วยกัน เรือใหญ่เรือเล็กจับปลาไม่เหมือนกัน ต้องปรับตัวเพื่ออยู่ในทะเลหรือพื้นที่ถนัด ทำเฉพาะสิ่งที่ตลาดต้องการ อย่าเอาซัพพลายครีเอตดีมานด์ อย่าใช้ดีมานด์ครีเอตซัพพลายเพราะทำไม่ได้