แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จับมือพาร์ทเนอร์ปั่นเมกะโปรเจกต์แห่งปี “THE FORESTIAS” มูลค่า 9 หมื่นลบ. โครงการอสังหาฯแบบ Mixed Use Lifestyle โมเดลแรกของโลก คาดแล้วเสร็จปี 2565

บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) พัฒนาโครงการ THE FORESTIAS มูลค่ากว่า 9 หมื่นล้านบาท โครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ในรูปแบบ Mixed-Use โมเดลแรกของโลกเพียบพร้อมด้วยอาคารสำนักงาน ที่อยู่อาศัยฯ และพื้นที่สีเขียวมากถึง 50 เปอร์เซ็นต์

นายวิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) เปิดเผยว่า เดอะ ฟอเรสเทียร์ เป็นโครงการที่แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ร่วมกันออกแบบและพัฒนาสู่การเป็นต้นแบบของที่อยู่อาศัยบนพื้นฐานของการสร้าง ความสุขที่ยั่งยืนให้แก่ผู้คน โดยการออกแบบโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ในรูปแบบ Mixed-Use  โดยตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 300 ไร่ในบริเวณบางนา-ตราด กิโลเมตรที่ 7 เริ่มดำเนินการก่อสร้างในมาตั้งแต่ปี  2561 และคาดว่าจะเสร็จภายในปี 2565

ภายในโครงการนับถูกออกแบบขึ้นให้เป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบ Mixed Use Lifestyle ซึ่งเป็นโมเดลแรกของโลกที่มีทั้งที่อยู่อาศัย พื้นที่ค้าปลีก อาคาร สำนักงาน ศูนย์สุขภาพ สถานศึกษา อาคารนวัตกรรมที่รายล้อมไปด้วยป่าที่มีระบบนิเวศสมบูรณ์ และมนุษย์สามารถอยู่ได้ โดยเป็นมิติใหม่กับการใช้ชีวิตท่ามกลางระบบนิเวศธรรมชาติครั้งแรกของโลกที่มี ผืนป่าและพื้นที่สีเขียวมากถึง 50 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งยังเปิดโอกาสให้ชุมชนและบุคคลภายนอกสามารถเข้ามาพักผ่อนและแอบอิงธรรมชาติขนาดใหญ่ภายในพื้นที่โครงการ และทางโครงการยังเปิดโอกาสให้ชุมชนและบุคคลภายนอกสามารถเข้ามาพักผ่อนในบรรยากาศอันเป็นธรรมชาติขนาดใหญ่ภายในพื้นที่โครงการ

“ผมเชื่อเรามีความสุขที่ต่างกัน แต่ผมก็เชื่อว่าความสุขเริ่มต้นที่สิ่งแวดล้อมที่ดี และในฐานะนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ เราเอาโจทย์เรื่อง ความสุข ขึ้นมาก่อน เราสร้างระบบนิเวศน์เป็นของตัวเองขึ้นมาอย่างครบวงจรเป็นครั้งแรกของโลก ไม่เคยมีใครทำมาก่อน”

สำหรับระบบนิเวศน์ของ โครงการเดอะ ฟอเรสเทียร์จะมีพืชพันธุ์รวมกันกว่า 38 สายพันธุ์ ส่วนสัตว์จะมีในเบื้องต้น 123 สายพันธุ์ และในอีก 5 ปีหลังจากโครงการเสร็จสิ้นจะเพิ่มขึ้นเป็น 250 สายพันธุ์ โดยในโครงการจะมีป่าทึบ ป่าเพื่อผู้อยู่อาศัย ป่าสำหรับผจญภัย และพาวิลเลี่ยนสไตล์ธรรมชาติ

นอกจากนี้มีการแบ่งพื้นที่ให้เหมาะสำหรับคนถึง 4 รุ่นในโครงการ โดยออกแบบมาให้สามารถมาพบปะกันได้ สร้างความกลมเกลียวในครอบครัว  การแบ่งสรรปันส่วนพื้นที่เพื่อทำให้เกิดรูปแบบไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างหลากหลาย และมีพื้นที่ของชุมชนเพื่อมารวมตัวกัน มีทั้งขนาดเล็ก ขนาดใหญ่กระจายทั่วโครงการ เช่น พื้นที่พักผ่อน พื้นที่ทำกิจกรรมทั้งกลางแจ้งและในร่ม สวนศึกษาธรรมชาติ หรืออาจจะตั้งแคมป์ก็ได้ เพราะธรรมชาติในโครงการมีความสมบูรณ์

            ทั้งนี้สอดคล้องกับงานวิจัยโดยหน่วยงานอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกา ระบุว่าบริเวณพื้นที่ต้นไม้ใหญ่ที่ทีมวิจัยออกสำรวจพบว่าอนุภาคฝุ่นละอองลดลงประมาณ 7 – 24เปอร์เซ็นต์ และบริเวณนั้นมีอุณหภูมิเฉลี่ยลดลง เป็นผลมาจากการคายน้ำของต้นไม้แสดงให้เห็นว่าต้นไม้สามารถช่วยแก้ปัญหาหมอกควันในเมืองได้

            ขณะที่นายวัสนัย ภคพงศ์พันธุ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร โครงการ THE FORESTIAS – เดอะ ฟอเรสเทียส์ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) เผยถึงกลยุทธ์การสื่อสารการตลาดนั้นว่า  ได้เตรียมเผยภาพลักษณ์ด้านต่างๆ ของโครงการออกมาให้ทั้งลูกค้า พาร์ทเนอร์ นักลงทุน ได้เห็นถึงศักยภาพ ประสิทธิภาพ และความสมบูรณ์พร้อมของโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบ Mixed-Use Lifestyle โมเดลแรกของโลก ที่นำเสนอนิยามความสุขที่แท้จริงให้กับคนทั่วโลกได้สัมผัสและรับรู้ถึงส่วนต่างๆ ของโครงการภายใต้คอนเซ็ปต์หลักImagine Happiness

วางแผนแบ่งระยะการสื่อสารออกเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงที่ 1 การสร้างการสื่อสารเกี่ยวกับคอนเซ็ปต์และรูปแบบของความสุขในด้านต่างๆ ที่สะท้อนจากมุมมองของกลุ่มเป้าหมายในแต่ละช่วงวัย และช่วงที่ 2 นำเสนอองค์ประกอบทุกส่วนของโครงการและเอ็กซ์คลูซีฟโปรเจ็คที่สามารถตอบสนองทุกความต้องการของแต่ละกลุ่มเป้าหมาย

            สำหรับการสื่อสารได้ใช้งบประมาณกว่า 100 ล้านบาท โดยร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำ อาทิ เอเจนซี่โฆษณา สื่อรูปแบบต่างๆ ค่ายเพลง ศิลปิน และอาร์ทติสชั้นนำของประเทศไทย ร่วมสร้างสรรค์การสื่อสารประชาสัมพันธ์แบบ Cross segmentation เจาะกลุ่มคนกรุงเทพฯ และเออเบิร์น เพื่อตอบโจทย์ความสุขและความต้องการของลูกค้าในทุกกลุ่มที่มีความหลากหลายต่างกัน โดยสร้างสรรค์ภาพยนตร์โฆษณาชุดแรก ‘The Land of Happiness’ ที่ถ่ายทอดความสุขผ่านมุมมองและจินตนาการของคนแต่ละกลุ่ม ทั้งเด็ก คนทำงาน ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ ที่อาศัยอยู่เป็นครอบครัวเดี่ยว และครอบครัวขยาย เป็นเรื่องราวความสุขในมุมมองที่ตัวเองชื่นชอบในรายละเอียดที่แตกต่างกัน