สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส

สภาวะตลาดวันที่ 02 มิถุนายน 2560 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,266.24-1,258.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,450 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,500 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM17 อยู่ที่ 22,540 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 30 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 22,570 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.53 น.ของวันที่ 02/06/60)

  แนวโน้มวันที่ 05 มิถุนายน 2560
ตัวเลขเศรษฐกิจช่วยสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. โดยดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินแข็งค่าขึ้นจนกดดันราคาทองคำลดลง หลังจาก ADP Employer Services เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาด ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวขึ้นตอบรับการคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่ง เทรดเดอร์คาดว่า มีโอกาส 96% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย. และมีโอกาส 50% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหนึ่งครั้งก่อนสิ้นปี 2560 อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำอ่อนตัวลงไม่มาก เนื่องจากความกังวลเรื่องปัญหาทางการเมืองในสหรัฐ และจากการที่นักลงทุนหลีกเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยงและเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย โดยคณะกรรมการข่าวกรองของวุฒิสภาสหรัฐ ได้ออกหมายเรียกหลายฉบับโดยครอบคลุมถึงบุคคลและหน่วยงานที่ทางคณะกรรมการมองว่ามีส่วนในประเด็นรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งของสหรัฐในปี 2559 และเปิดเผยว่า นายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) จะออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และรัสเซียเป็นครั้งแรกในวันที่ 8 มิ.ย.นี้ นับเป็นการให้ข้อมูลครั้งตั้งแต่ที่เขาถูกทรัมป์สั่งปลดจากตำแหน่ง ความกังวลที่ว่า ภาวะปั่นป่วนวุ่นวายทางการเมืองในสหรัฐอาจจะส่งผลให้ประธานาธิบดีทรัมป์ ประสบกับความล่าช้าในการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แนะนำนักลงทุนสามารถเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้นจากการดีดตัวขึ้น เบื้องต้นยังคงให้จับตาราคาทองคำบริเวณ 1,270-1,278 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคายังไม่สามารถปรับตัวขึ้นยืนเหนือโซนนี้ คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะค่อยๆอ่อนตัวลงมา โดยประเมินแนวรับไว้ในบริเวณ 1,258-1,252 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ลงทุนระยะสั้นโดยรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลง
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่าในระยะสั้นหากราคาไม่สามารถ break out แนวต้าน 1,270-1,278 ได้ดอลลาร์ต่อออนซ์ จะเกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้นให้ราคากลับลงมาตั้งฐานบริเวณ 1,258-1,252 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีก แนะนำหากรับความเสี่ยงได้สูงรอเปิดสถานะขายเมื่อราคาดีดขึ้นมาใกล้ 1,278 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากรับความเสี่ยงได้น้อยอาจเสี่ยงเปิดสถานะซื้อเพื่อเก็งกำไรจังหวะดีดตัวหากราคายืนเหนือ 1,252 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ตัดขาดทุนหากหลุด 1,252 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามวายแอลจีเน้นย้ำว่านักลงทุนระยะสั้นควรวางแผนการลงทุนที่ชัดเจน มีจุดเข้าซื้อ จุดขายทำกำไร หรือจุดตัดขาดทุน และปฏิบัติตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด