วสท. กำหนด 5 มาตรฐานใหม่ จัดการระบบความปลอดภัยในการก่อสร้าง ลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุในการทำงาน

นายธเนศ วีระศิริ นายก วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ (วสท.) เปิดเผยว่า จากการเกิดอุบัติเหตุในไซต์ก่อสร้างและในที่สาธารณะปรากฏให้เห็นอยู่บ่อยครั้งในประเทศไทย และเริ่มมีข่าวในประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน CLMV ด้วยเช่น อัคคีภัย, เครนถล่ม, ตึกถล่ม และอื่น ๆ ทางวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ จึงต้องการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการและผู้ดำเนินงานตามไซต์ก่อสร้างได้ปฏิบัติหน้าที่ตามหลักมาตรฐานวิศวกรรมความปลอดภัย

ด้วยเหตุดังกล่าว วสท.จึงได้ดำเนินการประกาศใช้ มาตรฐานทางวิศวกรรม 5 มาตรฐาน ในการเสริมสร้างคุณภาพของโครงการและคุณค่าของแบรนด์ ด้วยหลักการปฏิบัติที่ดีในทุกระดับ การบริหารจัดการโครงการและความปลอดภัยทั้งในระยะก่อน-ระหว่าง-และหลังการก่อสร้าง การใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีสำหรับการก่อสร้างและอาคารที่เหมาะสม การลดปัจจัยเสี่ยงต่ออุบัติเหตุและไฟไหม้ เพื่อรองรับเศรษฐกิจดิจิทัลและร่วมขับเคลื่อนความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอย่างยั่งยืนควบคู่กับความปลอดภัย ได้แก่ 1. มาตรฐานความปลอดภัยในงานก่อสร้าง เล่ม 1 : ความปลอดภัยในเรื่องการจัดการทั่วไป ระบบบริหารจัดการความปลอดภัย ข้อแนะนำสำหรับสถานประกอบการก่อสร้างขนาดเล็กหรือสถานประกอบการทั่วไป ได้นำไปประยุกต์ใช้ โดยโครงการก่อสร้างที่ดีต้องมีแผนการจัดการความปลอดภัยในเรื่องต่าง ๆ ซึ่งมีผลต่อคุณภาพงานก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนระบบการจัดการความปลอดภัย, การเคลื่อนย้ายวัสดุและการเก็บวัสดุในสถานที่ก่อสร้าง เป็นต้น รวมไปถึงอุปกรณ์ความปลอดภัยต่าง ๆ ที่จะช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุต่อผู้ปฏิบัติงาน บุคคลที่เกี่ยวข้อง สาธารณชนและสถานที่ข้างเคียง 2. มาตรฐานความปลอดภัยในงานก่อสร้าง เล่ม

2 : ความปลอดภัยในการใช้เครื่องมือและเครื่องจักร เป็นมาตรฐานที่เน้นสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องได้นำไปประยุกต์ใช้ในงานก่อสร้าง เพื่อให้เกิดปลอดภัยในการใช้เครื่องมือและเครื่องจักรขณะปฏิบัติงาน

 3. มาตรฐานระบบไฟฟ้าแสงสว่างฉุกเฉินและโคมไฟฟ้าป้ายทางออกฉุกเฉิน มาตรฐานนี้เกี่ยวกับความปลอดภัยในชีวิตของผู้ใช้อาคาร ได้จัดทำขึ้นให้สอดคล้องกับกฎหมายและมาตรฐานของสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เพื่อกำหนดเครื่องมือให้แสงสว่างและนำทางผู้ประสบภัยไปสู่สถานที่ปลอดภัยขณะเกิดเหตุฉุกเฉิน รวมทั้งระบุถึงพื้นที่เก็บอุปกรณ์ดับเพลิง อุปกรณ์แจ้งเหตุ และอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน  มีแบ่งเนื้อหาออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 1. ระบบไฟฟ้าแสงสว่างฉุกเฉิน อาทิ การเตรียมการและจดบันทึก, การให้แสงสว่างฉุกเฉิน, การส่องสว่างเพื่อการหนีภัย, แบตเตอรี่ และระบบการเดินสายและข้อกำหนดของวงจร 2. โคมไฟฟ้าป้ายทางออกฉุกเฉิน อาทิ ข้อกำหนดต่าง ๆ, สภาวะทั่วไปสำหรับการทดสอบ, การติดตั้งโคมไฟฟ้าป้ายทางออกฉุกเฉิน และระยะห่าง เป็นต้น

          4. มาตรฐานระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ เป็นมาตรฐานทางด้านการออกแบบ การติดตั้ง และการตรวจสอบระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้สำหรับใช้เตือนอัคคีภัยกับอาคารทั่วไป ประกอบด้วย วิธีการกำหนดโซน การแบ่งโซนเพื่อค้นหาจุดต้นเพลิงได้โดยรวดเร็วและสามารถหนีไฟได้ทัน การแบ่งประเภทของอาคาร เพื่อกำหนดส่วนประกอบขั้นพื้นฐานของระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ที่อาคารพึงมี อุปกรณ์ตรวจจับควัน อุปกรณ์ตรวจจับความร้อน อุปกรณ์ตรวจจับเปลวเพลิง และการกำหนดใช้ที่เหมาะสมกับพื้นที่เฉพาะ รวมถึงการติดตั้งอุปกรณ์ สาย ท่อ และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง 5. มาตรฐานการควบคุมควันไฟ ใช้อ้างอิงสำหรับการออกแบบระบบควบคุมควันไฟ เพื่อให้อาคารประเภทต่าง ๆ สามารถนำไปใช้ได้ เมื่ออาคารเข้าเกณฑ์ตามข้อกำหนดของกฎหมาย ที่กำหนดให้ต้องมีระบบควบคุมควันไฟขณะเกิดเพลิงไหม้ โดยมีเนื้อหาครอบคลุมถึงระบบควบคุมควันไฟในแบบต่าง ๆ ทั้งระบบอัดอากาศและระบายอากาศ การทำงานของระบบควบคุมควันไฟกับระบบอื่นที่เกี่ยวข้อง อุปกรณ์ประกอบ และการติดตั้งระบบควบคุมควันไฟ รวมถึงการทดสอบระบบควบคุมควันไฟ และการปิดช่องท่อเพื่อป้องกันไฟลาม โดยมีภาคผนวกทฤษฎีการควบคุมควันไฟ ที่จะให้ความรู้เพิ่มเติม พร้อมสมการคำนวณเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของควันไฟ การไหลของอากาศ อัตราการไหลและการอัดอากาศ

นายธเนศ วีระศิริ นายก วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ (วสท.)