รพ.วิภาวดีบุกตลาดเพื่อนบ้าน ส่งศูนย์ผู้มีบุตรยากรับเทรนด์แต่งงานช้า

ศูนย์ผู้มีบุตรยาก โรงพยาบาลวิภาวดี เจาะตลาดเมียนมา กัมพูชา หวังขยายฐานลูกค้าเพิ่ม ชูคุณภาพการรักษา เทคโนโลยี มั่นใจผู้ใช้บริการเพิ่มแน่

            แพทย์หญิงอัญชลี พฤฒิวรนันทน์ สูตินารีแพทย์และแพทย์เฉพาะทางเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ ศูนย์ผู้มีบุตรยากโรงพยาบาลวิภาวดี เปิดเผยว่า ศูนย์ผู้มีบุตรยากของโรงพยาบาลวิภาวดีเปิดให้บริการมากว่า 15 ปีแล้ว ซึ่งเติบโตและมีผู้เข้ามาใช้บริการจำนวนมาก เนื่องจากพฤติกรรมของคนเปลี่ยนไป คือ มีการแต่งงานช้าลง และจากนโยบายของรัฐบาลจีนสนับสนุนให้ประชาชนมีบุตรคนที่ 2 จึงส่งผลให้ กลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เมียนมา กัมพูชา เข้ามาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น

ปัจจุบันทางศูนย์มีแพทย์ประจำศูนย์ 3 คน และแพทย์พาร์ตไทม์ 5 คน พร้อมให้บริการแบบครบวงจรตลอด 7 วัน ตั้งแต่การปรึกษา การฉีดเชื้อ การทำเด็กหลอดแก้ว โดยเน้นเจาะกลุ่มคนไทยเป็นหลัก

“ปัจจัยหลักที่ทำให้คนต่างชาติเข้ามาใช้บริการในไทยเพิ่มขึ้นเพราะชื่อเสียงของทีมแพทย์ ความเชื่อมั่นในคุณภาพการรักษาและเทคโนโลยีที่ทันสมัยเทียบเท่ากับประเทศแถบยุโรปอเมริกา ขณะเดียวกัน ถ้าเทียบราคาค่าบริการโดยรวมๆ ของศูนย์ผู้มีบุตรยากในไทยกับประเทศแถบยุโรปอเมริกาถือว่าต่ำกว่า ขณะที่อัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์ของผู้เข้าใช้บริการก็ถือว่าใกล้เคียงกับอเมริกาและยุโรป จึงจูงใจให้ชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการในไทย”แพทย์หญิงอัญชลี กล่าว

            “คนแต่งช้าลงเรื่อย ๆ ทำให้ตลาดนี้มีโอกาสขยายตัวอีกมาก ซึ่งเราเน้นเจาะลูกค้าแถบเพื่อนบ้านมากกว่า เพราะมีวัฒนธรรมใกล้เคียงกัน การเดินทางเข้ามารับการรักษาก็สะดวก”

แพทย์หญิงอัญชลีกล่าวต่อว่าจำนวนลูกค้าต่างประเทศที่เข้ามาใช้บริการที่ศูนย์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งคนจีน ยุโรป อเมริกาและประเทศกลุ่มเพื่อนบ้าน ซึ่งผู้ที่เข้ามาใช้บริการรู้จักศูนย์จากการบอกต่อของกลุ่มผู้เคยเข้ามาใช้บริการแล้ว แต่ปัจจุบันสัดส่วนลูกค้าคนไทยยังอยู่ที่ 80 เปอร์เซ็นต์ และต่างประเทศ 2 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่แนวทางการขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้นก็จะทำให้จำนวนผู้เข้ามาใช้บริการโตขึ้น แต่ยังไม่ทำให้สัดส่วนของลูกค้าเปลี่ยน

ขณะที่ทิศทางธุรกิจปีนี้ นอกจากจะรักษาฐานลูกค้าคนไทยแล้ว ยังจะเพิ่มน้ำหนักในการขยายตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะเมียนมา กัมพูชาด้วย ซึ่ง รพ.วิภาวดี ทำตลาดผ่านตัวแทนในแต่ละประเทศ โดยที่ผ่านมาทำตลาดเฉพาะเมืองหลวงเท่านั้น แต่ปีนี้จะเจาะเข้าไปตามเมืองรองมากขึ้น เน้นสร้างการรับรู้ผ่านเอเย่นต์และเมื่อจะเข้ารับการรักษาก็ต้องเดินทางมาไทย

สำหรับเป้าหมายของศูนย์มีบุตรยาก โรงพยาบาลวิภาวดี คือ การรักษาคุณภาพการบริการ หรืออัตราการตั้งครรภ์ของผู้เข้ามาใช้บริการให้สูงขึ้น จากปัจจุบันอัตราการตั้งครรภ์ของศูนย์เฉลี่ยอยู่ที่ 50-80เปอร์เซ็นต์