ผู้ประกอบการรีสอร์ต โรงแรมซบเซา หลังเศรษฐกิจฝืดทำพิษ

นางสาวณัฐวดี วุฒิสวัสดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด เสม็ด รีสอร์ท กรุ๊ป เปิดเผยว่า ผู้ดำเนินธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ตในจังหวัดระยองรวมถึงเกาะเสม็ด ซึ่งขณะนี้ได้รับผลกระทบจากตลาดลูกค้าองค์กร ซึ่งลดลงราว 20 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยฝืดประกอบกับมีรีสอร์ตเปิดใหม่จำนวนมาก เกิดการแข่งขันแย่งชิงลูกค้า โดยเฉพาะตลาดรีสอร์ตระดับ 3 ดาวบนเกาะเสม็ด ที่มีราคาห้องพักขายอยู่ที่ประมาณ 4,000 บาทต่อคืน

“ปัญหาเศรษฐกิจไทยฝืดส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อตลาดคนไทยอย่างมาก ลูกค้าเจรจาต่อรองราคาห้องพักมากขึ้น เมื่อไม่ได้ราคาที่ต้องการ ก็เปลี่ยนไปพักโรงแรมอื่น สำหรับแนวทางการรับมือปัญหานี้ของเสม็ด รีสอร์ท กรุ๊ป คือ การยืนราคาห้องพัก ไม่ตัดราคาตามภาวะการแข่งขันที่รุนแรง โดยยื่นข้อเสนอแก่ลูกค้าให้เข้าพักในรีสอร์ตระดับอื่น ๆ ในเสม็ด รีสอร์ท กรุ๊ปที่เหมาะสมกับงบประมาณแทน”

ปัจจุบัน เสม็ด รีสอร์ท กรุ๊ป มีรีสอร์ตรวม 7 แห่ง มีห้องพักทั้งหมด 350 ห้อง ครองส่วนแบ่งมากเป็นอันดับ 1 ของห้องพักบนเกาะเสม็ดที่มีกว่าหนึ่งพันห้อง มีตั้งแต่แบรนด์ราคาประหยัด จนถึงแบรนด์ระดับลักเซอรี่ หรูหราที่สุดในเกาะเสม็ด เน้นเจาะลูกค้าไฮเอนด์ มีวิลล่า 40 หลัง ราคาเริ่มต้นในช่วงโลว์ซีซั่นอยู่ที่ 1.98 หมื่นบาทต่อคืน เป็นไปตามนโยบายที่เจ้าของเสม็ด รีสอร์ท กรุ๊ป ต้องการสร้างที่พักให้ครอบคลุมทุกระดับ

นางสาวณัฐวดี กล่าวเพิ่มเติมว่า เป้าหมายปี 2559 เสม็ด รีสอร์ท กรุ๊ปนั้น บริษัทคาดมีรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 15 เปอร์เซ็นต์ แม้ตลาดลูกค้าองค์กรคนไทยจะลดลงก็ตาม แต่บริษัทได้ปรับแผนขยายตลาดใหม่ๆ เช่น นักท่องเที่ยวจากยุโรปตะวันออก และอาเซียนทุก ๆประเทศ พร้อมรักษาฐานตลาดเดิม ซึ่งมีลูกค้ายุโรปมากสุดเป็นอันดับ 1 รองลงมาคือ จีน ไทย และเกาหลีใต้ ด้วยการเข้าร่วมงานส่งเสริมการขาย ทั้งเทรดโชว์และโรดโชว์ทุกๆงาน พร้อมกระจายลูกค้าให้เข้าพักตลอดปีเพื่อลดความเสี่ยง

นางสาวณัฐวดี กล่าวเพิ่มเติมถึงความท้าทายของธุรกิจรีสอร์ตบนเกาะเสม็ดด้วยว่า ยังคงเป็นสถานการณ์ตลาดที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เช่น แนวโน้มการขยายตัวของนักท่องเที่ยวกลุ่มเดินทางด้วยตัวเอง (เอฟ.ไอ.ที.) โดยปัจจุบันเสม็ด รีสอร์ท กรุ๊ป มีลูกค้าเอฟ.ไอ.ที 60 เปอร์เซ็นต์ มากกว่าลูกค้ากรุ๊ปทัวร์ซึ่งมีอยู่ 40 เปอร์เซ็นต์ ในตลาดจีนระดับไฮเอนด์ เลือกพักที่ปารดี รีสอร์ท โดยไม่สนใจเรื่องราคาว่าสูงเท่าใด

ด้านนางสาวน้ำมนต์ เดชาขจรสุข ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด คีรีมายา กอล์ฟ รีสอร์ท แอนด์ สปา เขาใหญ่ กล่าวว่า คีรีมายาฯมีสัดส่วนลูกค้าคนไทยมากถึง 65 เปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าองค์กร อีก 35 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือเป็นลูกค้าชาวต่างชาติ เป็นเอเชียและยุโรปในสัดส่วนใกล้เคียงกัน

ปัจจุบันตลาดลูกค้าคนไทยได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศฝืด เห็นได้ชัดในช่วงเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้อัตราเข้าพักในปีนี้อยู่ที่ประมาณ 55-60 เปอร์เซ็นต์ ลดลงจาก 65 เปอร์เซ็นต์ เมื่อปีที่แล้ว ทำให้คีรีมายาฯ ต้องปรับกลยุทธ์การทำตลาด ทำโค-แพ็กเกจ รวมค่าใช้จ่ายดินเนอร์และห้องประชุมให้ดูคุ้มค่า เพื่อนำเสนอแก่ลูกค้าองค์กรซึ่งเป็นตลาดที่ขึ้นกับภาวะเศรษฐกิจเป็นหลัก