ทอท.เตรียมแผนพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง ระยะที่ 3

นายเพ็ชร ชั้นเจริญ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า หลังจากที่เปิดให้บริการอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ อาคาร 2 ไปแล้ว ส่งผลให้เพิ่มศักยภาพการรองรับผู้โดยสารของท่าอากาศยานดอนเมืองได้มากขึ้นอยู่ที่ 30 ล้านคนต่อปี แบ่งเป็นผู้โดยสารภายในประเทศ 22 ล้านคน และผู้โดยสารระหว่างประเทศ 8 ล้านคน

อย่างไรก็ตามเพื่อให้มีศักยภาพรองรับถึง 40 ล้านคนต่อปี รวมทั้งแก้ไขปัญหาการจราจรภายในท่าอากาศยาน จึงได้ปรับแผนการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง ระยะที่ 3  ใหม่พร้อมทั้งทำแผนพัฒนาระบบขนส่งผู้โดยสาร Automated People Mover เพื่อแก้ปัญหาการจราจรและต่อเชื่อมระบบการขนส่งภายในท่าอากาศยานดอนเมืองรวมงบฯลงทุนประมาณ 32,000 ล้านบาท

แผนงานดังกล่าวนี้ ทอท.เตรียมนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ ของ ทอท.ในเดือนพฤศจิกายนนี้ จากนั้นจะนำเสนอขอความเห็นชอบต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ต่อไป หากที่ประชุม ครม.เห็นชอบ ทาง ทอท.จะเร่งประมูลหาผู้ออกแบบและส่วนงานอื่น ๆ ทั้งนี้ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการภายในปี 2562 และแล้วเสร็จราวปี 2565

“โครงการก่อสร้างอาคารจังก์ชั่นเทอร์มินอลจะเป็นส่วนสำคัญที่จะมาตอบโจทย์ในเรื่องของการเพิ่มรายได้ในส่วนของน็อนแอโรหรือรายได้ที่ไม่ใช่ธุรกิจการบิน ที่ปัจจุบันท่าอากาศยานดอนเมืองมีสัดส่วนอยู่ที่ราว 40% ให้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรือไม่ต่ำกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม ทอท.จะนำเสนอรายละเอียดของแผนทั้งหมดอีกครั้ง หลังจากที่ประชุมบอร์ดของบริษัทในเดือนพฤศจิกายนนี้”นายเพ็ชร กล่าว

ด้านนายประกิต ถนอมวิชัย วิศวกรอาวุโส ทอท. กล่าวว่า สำหรับโครงการดังกล่าว ประกอบด้วย การเพิ่มหลุมจอดด้านทิศเหนือ 12 หลุมจอด ลานขับเครื่องบิน 2 จุด ปรับปรุงหลุมจอดด้านทิศใต้ ปรับปรุงและขยายอาคารเทียบเครื่องบินด้านทิศเหนือ รวมทั้งปรับปรุงอาคารภายในประเทศเดิม ก่อสร้างอาคาร Junction Terminal และลานจอดรถ เพื่อเชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง นอกจากนี้ยังมีส่วนของลานจอดรถระยะยาว, ศูนย์ขนส่ง, สถานีซ่อมบำรุง ฯลฯ

“สำหรับอาคารจังก์ชั่นเทอร์มินอลคาดว่าจะมีพื้นที่เชิงพาณิชย์กว่า 1 แสน ตร.ม. มีที่จอดรถราว 1,200 คัน โฮเต็ลแอร์พอร์ต ประมาณ 300 ห้อง รวมถึงร้านอาหารและร้านค้าต่าง ๆ ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาว่า ทอท.จะดำเนินการเอง หรือให้เอกชนเข้ามาร่วมดำเนินการ เช่นเดียวกับระบบ APM ที่อยู่ระหว่างการศึกษาด้วยเช่นกัน ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จราวปี 2565 เช่นกัน เนื่องจากเป็นระบบที่จะนำมาสนับสนุนแผนของดอนเมือง เฟส 3