กฟผ. ก้าวสู่ปีที่ 50 ปี เพื่อชีวิตที่ดีกว่าอย่างยั่งยืน คว้า 5 รางวัล ตอกย้ำภาพลักษณ์องค์กรแห่งคุณภาพ

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. ครบรอบ 50 ปี ฉลองรับ 5 รางวัลเด่นแห่งปี “Thailand Coal Award 2018” ตอกย้ำการดำเนินการที่ดีด้านเชื้อเพลิงถ่านหินที่เป็นมิตรต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม

            สำหรับการเข้ารับรางวัลในครั้งนี้ Thailand Coal Awards 2018 เป็นรางวัลที่มอบให้กับองค์กรที่มีความเป็นเลิศด้านต่างๆของกิจการถ่านหินไทยประจำปี 2561 โดยมี นายนิกูล ศิลาสุวรรณ รองผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า นายบุญทวี กังวานกิจ ผู้ช่วยผู้ว่าการบริหารเชื้อเพลิง นายอมรพันธ์ ลีลาภรณ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า 2 และคณะผู้บริหาร เป็นผู้แทนกฟผ. รับมอบรางวัลจาก นายวีระศักดิ์ พึ่งรัศมี อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติกระทรวงพลังงาน

ผลการประกวดในครั้งนี้ กฟผ. ได้รับรางวัลชนะเลิศรวม 5 รางวัล จากรางวัลทั้งหมด 8 รางวัล ได้แก่  1. ประเภทการดำเนินการด้านถ่านหินที่เป็นเลิศ(Best Practices Category) ได้รับ 2 รางวัลชนะเลิศ จากผลงาน เหมืองถ่านหินลิกไนต์แม่เมาะ(Mae Moh Lignite Mine) โดยเหมืองแม่เมาะ ได้รับรางวัลชนะเลิศด้านการทำเหมืองถ่านหินแบบเปิด(Surface Coal Mining)และผลงานการปรับปรุงหม้อน้ำของโรงไฟฟ้าถ่านหินเทคโนโลยีสะอาดเพื่อใช้ผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินคุณภาพต่ำ โดย โรงไฟฟ้าแม่เมาะได้รับรางวัลชนะเลิศด้านการใช้เทคโนโลยีถ่านหินสะอาดในการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ 500 เมกะวัตต์ขึ้นไป

            2.ประเภทความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ได้รับ 2 รางวัลชนะเลิศ จากผลงาน การดำเนินงานด้าน CSR ของเหมืองแม่เมาะ โดย เหมืองแม่เมาะ และผลงาน“ถอดบทเรียนศาสตร์พระราชา สู่แนวทางเพื่อการพัฒนาพื้นที่อ.แม่เมาะ อย่างยั่งยืนโดยโรงไฟฟ้าแม่เมาะ

            3. ประเภทนวัตกรรมด้านถ่านหิน(Special Submission Category) ได้รับ 1 รางวัลชนะเลิศจากผลงาน กล่องพิฆาตฝุ่น Dust Killer Box (Dust Reduction Equipment from Boom Type Bucket Wheel Reclaimer) โดย เหมืองแม่เมาะ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยลดปัญหาฝุ่นฟุ้งกระจายที่เกิดจากการทำงาน ของเครื่องตักถ่านหินที่ส่งถ่านหินลิกไนต์ให้โรงไฟฟ้าแม่เมาะ

            การจัดประกวด Thailand Coal Awards 2018 ในครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 ซึ่ง กฟผ. ได้รับรางวัล จากเวทีนี้ทุกครั้งจึงแสดงให้เห็นว่ากฟผ.มีการใช้ประโยชน์จากเชื้อเพลิงถ่านหินที่ประสบความสำเร็จ เชิงประจักษ์ทั้งด้านประสิทธิภาพและการเป็นมิตรกับสังคมและสิ่งแวดล้อม โดย กฟผ. มีการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมมาใช้อย่างต่อเนื่องเพื่อให้เป็นองค์กรที่มีการบริหารจัดการด้านเชื้อเพลิงถ่านหินอย่างมีประสิทธิภาพ ในระดับสากลเช่นนี้ต่อไป             นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ ประธานกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากวันเริ่มสถาปนา กฟผ. เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ปี 2512 จนถึงวันนี้เกือบครบ 5 ทศวรรษแล้ว ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ภูมิใจที่ได้เห็นกฟผ. เจริญเติบโตเป็นรัฐวิสาหกิจอันดับต้นๆของประเทศนำส่งรายได้ให้รัฐบาลนำไปพัฒนาประเทศปีละไม่น้อยกว่า 2 หมื่นล้านบาทและเชื่อมั่นว่าพนักงาน กฟผ. ทุกคนมีความภาคภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่ผลิตไฟฟ้าเพื่อความสุขของคนไทย