บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS ผู้ได้รับการอนุมัติให้จัดตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรีเพื่อดำเนินกิจการบริการเติมน้ำมันอากาศยาน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติกรุงเทพ (ดอนเมือง) มากว่า 36 ปี
นายประกอบเกียรติ นินนาท กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS เปิดเผยว่าในปีนี้บริษัทได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งส่งผลต่อรายได้ปีนี้จะลดลง 12เปอร์เซ็นต์จากปีก่อนที่บริษัทมีรายได้ 3,956.17 ล้านบาท หลังคาดการณ์ปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานปีนี้จะลดลงราว 15เปอร์เซ็นต์ มาที่ 5,200 ล้านลิตร จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 1-2เปอร์เซ็นต์ โดยปีก่อนที่มีปริมาณการเติมน้ำมันที่ 6,139 ล้านลิตร เนื่องจากต้นปีนี้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กระทบถึงจำนวนเที่ยวบินให้ลดลง 40เปอร์เซ็นต์และจำนวนผู้โดยสารลดลง 60เปอร์เซ็นต์
“คาดการณ์ที่เราให้ไว้นี้เป็นมุมมองที่ดูภาพรวมทั้งปีแล้ว แต่อย่างไรก็ตามหากสถานการณ์ต่างๆสามารถจบได้รวดเร็วกว่าที่คาดผลประกอบการก็จะดีกว่าที่คาดไว้ โดยเบื้องต้นคาดว่าจะจบลงในช่วงเดือน มิถุนายน ซึ่งในปีนี้นอกจากการขยายการลงทุนใหม่ๆแล้ว เราก็ยังเน้นการบริหารจัดการต้นทุนที่ดียิ่งขึ้น และตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออก”
ขณะที่แผนการดำเนินงาน ต่อจากนี้บริษัทได้วางแผนยุทธศาสตร์การเติบโตในช่วงระยะเวลา 5 ปี ระหว่างปี 2564-2568 บริษัทจะมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจอื่นๆ 50 เปอร์เซ็นต์ และมีรายได้จากธุรกิจให้บริการเติมน้ำมันอากาศยาน 50 เปอร์เซ็นต์ เพื่อที่จะเป็นการกระจายความเสี่ยงจากการรับรู้รายได้จากธุรกิจเพียงธุรกิจเดียว
ล่าสุดบริษัทได้ตั้ง บริษัท บาฟส์ คลีน เอนเนอร์ยี่ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้น 100 เปอร์เซ็นต์ เพื่อเข้าลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนเป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันได้มีการเจรจาเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในปีนี้บ้าง หากผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ไม่กระทบการเดินทางเพื่อตรวจสอบโครงการ
บริษัท บาฟส์ อินเทค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยถือหุ้นในสัดส่วน 90 เปอร์เซ็นต์ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาพันธมิตรที่มีนวัตกรรมในการพัฒนาและออกแบบรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจะเข้ามาช่วยพัฒนาระเติมน้ำมันอากาศยานให้กับบริษัท รวมทั้งเพื่อจะประกอบและจำหน่ายในประเทศและต่างประเทศทั่วภูมิภาค คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในปีนี้เช่นกัน
สำหรับโครงการวางระบบบริการเติมน้ำมันอากาศยานสนามบินอู่ตะเภา ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอผลการประมูล ซึ่งบริษัทได้เตรียมงบลงทุนไว้ราว 1,000 ล้านบาทรองรับการก่อสร้าง ซึ่งแหล่งเงินทุนมาจากการออกหุ้นกู้มูลค่าราว 1,000 ล้านบาท และบางส่วนมาจากเงินสดที่มีในบริษัท