ธ.กสิกรไทยบินตรงรับ 3 รางวัล ณ ประเทศสิงค์โปร์ สรุปผลประกอบการรอบ 9 เดือน กำไร 29,924 ล้านบาท

ธนาคารกสิไทย จำกัด (มหาชน) เข้ารับ 3รางวัล ในงาน 2019 All-Asia Executive Team – ASEAN Most Honored Companies Awards ณ สิงคโปร์

นายจงรัก รัตนเพียร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย เดินทางสู่ประเทศสิงค์โปร์เพื่อเป็นตัวแทนธนาคารเข้ารับ 3 รางวัล ในงาน 2019 All-Asia Executive Team – ASEAN Most Honored Companies Awards

3 รางวัลดังกล่าว ได้แก่ รางวัล ASEAN Most Honored Companies (ในประเภทBest CEO, Best CFO และ Best IR Programs) รางวัล ASEAN Overall Best ESG/SRI Reporting และรางวัล Best CFO-Thailand จากงาน “2019 All-Asia Executive Team – ASEAN Most Honored Companies Awards”

สำหรับเกณฑ์การตัดสินพิจารณาจากผลการสำรวจความคิดเห็นจากผู้จัดการกองทุนและนักวิเคราะห์กว่า 2,500 ราย งานนี้จัดโดยนิตยสาร Institutional Investor สื่อนิตยสารธุรกิจชั้นนำของสหรัฐอเมริกา

อนึ่ง ธนาคารกสิกรไทยสรุปและแจ้งผลประกอบการรอบ9 เดือนที่ผ่านมา พบมีกำไร 29,924 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับงวด 9 เดือน ปี 2561 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 1,502 ล้านบาท หรื​​อ 4.78เปอร์เซ็นต์ โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 4,051 ล้านบาท หรือ 5.54เปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่เกิดจากรายได้ดอกเบี้ยรับของเงินให้สินเชื่อและเงินลงทุน ทำให้อัตราผลตอบแทน

ส่วนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (Net interest margin: NIM) อยู่ที่ระดับ 3.34เปอร์เซ็นต์ สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลงจำนวน 2,753 ล้านบาท หรือ 6.20เปอร์เซ็นต์  ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากรายได้สุทธิจากการรับประกันภัยลดลง และการยกเลิกค่าธรรมเนียมการโอนเงินผ่านช่องทางดิจิทัล ​ในขณะที่รายได้จากการจำหน่ายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่นๆ เพิ่มขึ้นจำนวน 2,684 ล้านบาท หรือ 5.49เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ (Cost to income ratio) อยู่ที่ระดับ 43.41เปอร์เซ็นต์ โดยธนาคารมีการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา โดยพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบเพื่อให้สอดคล้องกับความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง

          สำหรับผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 3 ปี 2562 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2562 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 9,951 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนจำนวน 22 ล้านบาท หรือ 0.23เปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่เกิดจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 326 ล้านบาท หรือ 1.27เปอร์เซ็นต์ โดยมีอัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ อยู่ที่ระดับ 3.34 รวมถึงรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจำนวน 2,139 ล้านบาท หรือ 15.68เปอร์เซ็นต์ ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากรายได้จากการจำหน่ายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่นๆใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน โดยในไตรมาสนี้ อัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ อยู่ที่ระดับ 42.52เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม ธนาคารมีการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา โดยพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ อย่างรอบคอบเพื่อให้สอดคล้องกับความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง

นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของไทยในไตรมาส 3 ปี 2562 ยังไม่มีแรงหนุนเข้ามามากนัก ซึ่งเป็นภาพต่อเนื่องจากที่เศรษฐกิจเติบโตประมาณ 2.30เปอร์เซ็นต์ ในไตรมาส 2 ปี 2562 โดยแม้เศรษฐกิจในไตรมาส 3 ปี 2562 มีแรงหนุนจากฐานเปรียบเทียบที่ต่ำในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยว แต่กลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจตัวหลัก ทั้งการส่งออก และการลงทุนภาคเอกชนยังมีทิศทางชะลอตัว สอดคล้องกับการชะลอตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจและปริมาณการค้าโลก ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยืดเยื้อของการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน และความกังวลต่อความเสี่ยงเกี่ยวกับการถอนตัวของสหราชอาณาจักรจากสหภาพยุโรป

อย่างไรก็ดี ทิศทางเศรษฐกิจไทยอาจได้รับแรงหนุนมากขึ้นจากมาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจของภาครัฐในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี​