ดิ เอราวัณ เปิดแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี สร้างหมื่นห้องภายในปี63

บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)  เปิดแผนยุทธศาสตร์ใหญ่ 5 ปี สร้างห้องเพิ่มอีกกว่า 1.3 พันห้องพัก ทั้งในไทย-ฟิลิปปินส์ เผยปีนี้เปิดทั้งหมด 9 โรงแรม กว่า 1.1 พันห้องพัก

นางสาวกันยะรัตน์ กฤษณเทวินทร์ รองกรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนพัฒนาโรงแรมใหม่เพิ่มอีกทั้งในไทยและต่างประเทศ คิดเป็นจำนวนห้องพัก 1,313 ห้อง ได้แก่ โรงแรมระดับกลาง และราคาประหยัดในไทย ภายใต้แบรนด์เมอร์เคียวและไอบิส จำนวน 501 ห้อง, โรงแรมระดับบัดเจตในไทยภายใต้แบรนด์ฮ็อปอินน์ จำนวน 415 ห้อง และโรงแรมระดับกลางกับบัดเจตในประเทศฟิลิปปินส์ภายใต้แบรนด์ฮอลิเดย์อินน์กับฮ็อปอินน์จำนวน 397 ห้อง

ในปีนี้ตามแผนงานของบริษัทจะมีทั้งหมด 9 โรงแรม รวมจำนวนห้องพักทั้งหมดกว่า 1,157 ห้อง โดยทะยอยเปิดในครึ่งปีแรกไปแล้ว 3 โรงแรมในแบรนด์ฮ็อปอินน์ทั้งหมด รวมจำนวน 346 ห้อง แบ่งเป็นในกระบี่ ขนาดห้องพัก 71 ห้อง, สุรินทร์ ขนาด 79 ห้อง และอาเซียน่า ฟิลิปปินส์ ขนาด 196 ห้อง

สำหรับครึ่งปีหลังบริษัทจะเปิดเพิ่มอีก 4 โรงแรม ใน 2 แบรนด์คือ โนโวเทลและ ไอบิส สไตล์ ในสิ้นปีนี้จะมีโรงแรมทั้งหมด 61 แห่งมีจำนวนห้องพักกว่า 8,485 ห้อง ซึ่งตามแผนยุทธศาสตร์ 5 ปีของบริษัทที่วางไว้ตั้งเป้ามีจำนวนห้องพักรวมกว่า 10,000 ห้อง ภายในปี 2563

อย่างไรก็ตามทิศทางการลงทุนบริษัทเน้นไปในการสร้างใหม่ ไม่ซื้อกิจการ ในส่วนการปรับปรุงโรงแรมใหญ่อย่างเจดับบลิว แมริออท กรุงเทพคาดว่าจะดำเนินการปรับปรุงห้องพักแล้วเสร็จในปี 2562 หลังจากทยอยปรับปรุงตั้งแต่ปี 2560 ในสัดส่วน 30เปอร์เซ็นต์ และในปีนี้อีก 40เปอร์เซ็นต์”

“ตลอดปี 2561 คาดการณ์ว่าจะมีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 81-82 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มขึ้น 1เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ส่วนรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก ไม่รวมรายได้ห้องพักของแบรนด์ฮ็อปอินน์ คาดเพิ่มขึ้น 4เปอร์เซ็นต์ จากการเติบโตของราคาห้องพักที่ยังโตดี ขณะที่การเติบโตของรายได้รวมคาดอยู่ที่ 10เปอร์เซ็นต์”นางสาวกันยะรัตน์ กล่าว

สำหรับผลประกอบการครึ่งแรกของปีบริษัทมีรายได้รวม 3,149 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว มีกำไรสุทธิ 315 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อย่างไรก็ตามส่วนของโรงแรมเจดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ ยังอยู่ในช่วงปรับปรุงใหญ่ ส่งผลให้อัตราเข้าพักของโรงแรมนี้ลดลงจากปกติอยู่ที่ระดับ 80 เปอร์เซ็นต์ ลดลงมาเหลืออยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ แต่ในภาพรวมของไตรมาส 2 บริษัทยังมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 30 ล้านบาท แม้จะลดลง 49 เปอร์เซ็นต์ จากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วยังถือว่าเป็นผลประกอบการที่น่าพอใจ