ฉลอง 30 ปี สยามโตโยต้าอุตสาหกรรม รับโล่ห์สถานประกอบกิจการพัฒนา – จัดการระบบพลังงานดีเด่น เผยยึดมั่นกระบวนการผลิตที่สร้างสมดุลย์ต่อสิ่งแวดล้อม

บริษัทสยามโตโยต้าอุตสาหกรรม จำกัด หรือ STM ผู้ผลิตเครื่องยนต์ชั้นนำในกลุ่มโตโยต้าและเป็นฐานการผลิตเครื่องยนต์หลักของโตโยต้าในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ก่อตั้งใน วันที่ 6 กรกฎาคม ปี 2530ซึ่ง เป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศญี่ปุ่น) และบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)

ในปีนี้ครบรอบ 30 ปี จึงได้มีการเฉลิมฉลองด้วยการนำผู้บริหาร พนัก งานและครอบครัวกว่า 12,000 คน เข้าร่วมการจัดกิจกรรม ณ ศูนย์ประชุมนานาชาตินงนุชพัทยา ซึ่งมีความพร้อมทั้งด้านสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกในการจัดกิจกรรมได้อย่างดียิ่ง

30 ปีของการก่อตั้งบริษัทมุ่งมันพัฒนา และนำนวัตกรรมขั้นสูงมาใช้เพื่อรองรับการผลิตเครื่องยนต์อย่างครบวงจรจนเป็นที่ยอมรับของลูกค้าตลอดจน องค์กรภาครัฐและเอกชนในประเทศและต่างประเทศ

เมื่อไม่นานบริษัทเข้ารับโล่ห์เกียรติคุณสถานประกอบการที่เข้าร่วมพัฒนาระบบจัดการพลังงานตามมาตรฐานสากล ISO 5001 มีนายบันชัย จันทชีวกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการเข้ารับจากนายโกมล บัวเกตุ ผู้อำนวยการสำนักกำกับและอนุรักษ์พลังงาน

รางวัลดังกล่าวจัดโดยสำนักกำกับและอนุรักษ์พลังงาน กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน โดย STM เป็น 1 ใน 50 สถานประกอบการที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วม โครงการพัฒนาต่อยอดการดำเนินการจัดการพลังงานตามกฎหมายประเทศไทย ไปสู่ระบบการจัดการพลังงานในระดับสากล

อย่างไรก็ตามบริษัทยังได้ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมโดยดำเนินงานภายใต้แนวทาง 3 ด้าน คือ การสร้างให้พนักงานมีจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมออกแบบโรงงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อผลิตเครื่องยนต์ที่ก่อให้เกิดมลภาวะน้อยที่สุดโดยมีแนวปฏิบัติดังนี้ ปฏิบัติตามกฏหมาย ข้อบังคับ และมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัดรวมถึงการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี และส่งเสริมกิจกรรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมร่วมกับชุมชนในท้องถิ่นดำเนินกิจกรรมเชิงป้องกัน เพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด โดยสร้างความตระหนักถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากการทำงานและการปฏิบัติตามมาตรฐานการควบคุมปัญหาสิ่งแวดล้อมให้กับพนักงานทุกคนดำเนินการประเมินความเสี่ยงและควบคุมผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมโดยการควบคุมที่แหล่งกำเนิดดำเนินการปรับปรุงระบบการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและมลภาวะอย่างต่อเนื่อง โดยวิเคราะห์และปรับปรุงขบวนการผลิต เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่าลดการเกิดของเสียและส่งเสริมการนำของเสียกลับมาใช้ใหม่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดศึกษาและปรับปรุงขบวนการผลิต เพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ทำงานและสภาพแวดล้อมการปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับโดยไม่มีการร้องเรียนจากชุมชนถือเป็นหัวใจหลักในการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม(ดึงใหญ่)

บริษัทเราจึงมุ่งมั่นที่จะดำเนินกิจการที่เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด โดยประเมินลักษณะปัญหาสิ่งแวดล้อมและเน้นปรับปรุงที่แหล่งกำเนิดเป็นหลัก นอกจากนี้ โครงการปรับปรุงเพื่อลดการใช้ทรัพยากรหรือพลังงานและการเกิดของเสียถือเป็นอีกเป้าหมายหนึ่งที่บริษัทฯ ดำเนินการอย่างต่อเนื่องติดต่อกันทุกๆ ปี ซึ่งผู้บริหารให้ความสำคัญและติดตามความคืบหน้าเป็นประจำทุกเดือน

สำหรับการควบคุมระดับปริมาณของเสียที่ปล่อยสู่ภายนอกบริษัทจะตั้งเป้าหมาย ค่าควบคุมไว้ต่ำกว่าข้อกำหนดของกฏหมาย 20 เปอร์เซ็นต์ เพื่อที่จะสามารถป้องกันแก้ไขก่อนที่จะเกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน โดยบริษัทฯ ได้ติดตั้งอุปกรณ์ที่ทันสมัยเพื่อลดมลพิษในด้านต่างๆ เช่น ระบบบำบัดมลพิษอากาศทางด้านฝุ่น, ไอน้ำมัน, ไอกรด และระบบบำบัดน้ำเสีย ก่อนระบายออกไปยังระบบบำบัดส่วนกลางของนิคมอุตสาหกรรม โดยมีการตรวจสอบประสิทธิภาพให้เป็นไปตามมาตรฐานอย่างสม่ำเสมอ

ด้านการพัฒนาทรัพยากรบุคคล ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีค่าที่สุดของโตโยต้าและเป็นตัวกำหนดการเติบโตขององค์กร บริษัทจึงให้ความสำคัญในเรื่องการพัฒนาบุคลากรในองค์กรโดยมีปรัชญาตามแนวทางวิถีโตโยต้า ซึ่งตระหนักว่า คนเป็นทรัพยากรที่มีค่ามากที่สุด โดยจะเป็นผู้กำหนดการขับเคลื่อนให้องค์กรก้าวไปข้างหน้าและเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จขององค์กร และสามารถเติบโตไปพร้อมบริษัทอย่างยั่งยืนอีกด้วย

ทั้งนี้ บริษัทมีการจัดอบรมพนักงานในฝ่ายต่างๆอยู่อย่างต่อเนื่องโดยจัดหลักสูตรการเรียนรู้ที่เหมาะสมของแต่ละฝ่าย เช่น หลักสูตรสำหรับพนักงานสายสำนักงาน หลักสูตรสำหรับพนักงานสายการผลิต เป็นต้น มีทั้งหลักสูตรอบรมในประเทศและต่างประเทศหวังให้เป็นศูนย์กลางการพัฒนาความรู้ที่จำเป็นในการทำงานรวมถึงการฝึกฝนและพัฒนาทักษะด้านการผลิตให้กับพนักงานทุกระดับ