ก้าวสู่ 63 ปี ผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ฉลองยอดขายออลนิวอีซูซุดีแมคซ์ใหม่มากกว่า 4 ล้านคัน เสริมเกร่งด้วยนวัตกรรมใหม่ควบคุมคุณภาพการผลิต เน้นเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม

บริษัท อีซูซุ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายรถอีซูซุชิ้นส่วนอะไหล่อีซูซุ และซ่อมบำรุงรถอีซูซุ กว่า 63 ปีโดยได้รับความนิยมสูงในประเทศไทย ครองผู้นำตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ได้อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาอันยาวนานด้วยคุณภาพที่ดีเยี่ยม

            อีซูซุตระหนักถึงการยกระดับขีดความสามารถในการผลิตรถยนต์อยู่เสมอ ไม่หยุดที่จะพัฒนาและควบคุมคุณภาพการผลิตรถยนต์ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม  ล่าสุดได้นำเอาเทคโนโลยีล้ำสมัยมาใช้ออกแบบเครื่องยนต์อีซูซุ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ที่ยังคงความเร็ว แรง ประหยัดน้ำมัน และลดการปล่อย CO2 ต่ำสุด การันตีค่าการปล่อย CO2 จากห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐานระดับสากล นอกจากนี้เรายังผนวกเทคโนโลยีและนวัตกรรมอื่นๆเข้ามาใช้ในการผลิตรถยนต์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าสูงสุด

            นายโทชิอากิ มาเอคาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถอีซูซุเปิดเผยว่า ปี 2563 อีซูซุจะเพิ่มกำลังผลิตเพื่อรองรับการขยายตัวทั้งตลาดในประเทศและส่งออกปัจจุบันดีแมคซ์มียอดขายสะสมไปแล้วไม่น้อยกว่า 4 ล้านคัน

สำหรับภาพรวมของตลาดรถยนต์ในปีนี้อีซูซุเชื่อว่าน่าจะมียอดขายใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 1.04 ล้านคัน แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากปลายปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะช่วงเดือนสิงหาคมและกันยายนอยู่ในภาวะหดตัวก็ตาม แต่อีซูซุยังสามารถรักษาส่วนแบ่งทางการตลาด 33 เปอร์เซ็นต์ เอาไว้ได้ทั้งที่เป็นการจำหน่ายรถยนต์รุ่นเดิม ถือว่าเป็นสถานการณ์ที่น่าพอใจ

“จากนี้เราคงต้องรอดูว่า ดีแมคซ์รุ่นใหม่จะได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้ามากน้อยแค่ไหน เพราะวันนี้กำลังการผลิตดีแมคซ์ใหม่ยังไม่เพียงพอ ซึ่งอยู่ระหว่างการปรับแผนการผลิต”

            กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด  เผยเพิ่มเติมว่า อีซูซุดีแมคซ์ใหม่นั้น บริษัทให้ความสำคัญกับกระแสตอบรับค่อนข้างมาก จากประสบการณ์ของการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่จะพบว่า ลูกค้าที่มีความจงรักภักดีต่อแบรนด์อีซูซุ จะเป็นผู้ให้ความสนใจเข้ามาเลือกซื้อก่อนและหลักๆจะตัดสินใจซื้อในรุ่นท็อป เห็นได้จากสัดส่วนการจำหน่ายพบว่า 45 เปอร์เซ็นต์ เป็นรุ่น 4 ประตู รองลงมาเป็นรุ่นสเปชแค็บ หรือตอนครึ่ง 40 เปอร์เซ็นต์และซิงเกิลแค็บ หรือหัวเดียว 15 เปอร์เซ็นต์ และเชื่อว่าสัดส่วนการขายจะคงสัดส่วนเช่นนี้

            สำหรับดีแมคซ์ใหม่ บริษัทปรับราคาขึ้เฉลี่ย10,000 บาทต่อรุ่น หรือเริ่มต้น 510,000 บาทไปจนถึง 1,164,000 บาท ส่วนตลาดส่งออกนั้นคาดว่าจะเริ่มทำตลาดได้ราวต้นปี 2563 ออลนิวอีซูซุดีแมคซ์มาพร้อมขุมพลังใหม่ ให้ความแรงสะใจ ทนเหนือชั้น และเงียบยิ่งขึ้น แต่ยังคงเอกลักษณ์ความประหยัดน้ำมันตามแบบฉบับอีซูซุ รุ่นเครื่องยนต์ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ รุ่น 4JJ3-TCX ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,600 รอบ/นาที พร้อม E-VGS TURBO เทอร์โบแปรผันปรับไฟฟ้า แรงจัดตั้งแต่รอบต่ำ ตอบสนองได้รวดเร็ว รุ่นเครื่องยนต์อีซูซุ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ Gen 2 รุ่น RZ4E-TC ให้พลังแรงสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,600 รอบ/นาที

            นายมาเอคาวะ กล่าวถึงเรื่องความพร้อมของมาตรการบังคับใช้เครื่องยนต์มาตรฐานยูโร 5 ของภาครัฐที่จะบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2565 ว่าในเชิงของเทคโนโลยีนั้น อีซูซุมีเทคโนโลยีที่สามารถรองรับมาตรฐานยูโร 5ได้อย่างไม่มีปัญหา เพียงแต่ว่าน้ำมันซึ่งกำหนดบังคับใช้ปี 2567 ช้ากว่าการบังคับใช้เครื่องยนต์ คงไม่มีประเทศใดในโลกทำกัน

            ดังนั้น อยากให้รัฐบาลกลับมาพิจารณาอีกครั้ง ควรจะเริ่มพร้อมกันทั้งเครื่องยนต์และน้ำมัน และอีซูซุมองว่า รัฐบาลควรมีเวลาให้ผู้ประกอบการมีเวลาเตรียมตัวอย่างน้อย 4 ปี

63 ปี ผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย

            บริษัท อีซูซุมอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ IMCT ผู้นำด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย ดำเนินธุรกิจผลิตรถปิกอัพ รถยนต์นั่งอเนกประสงค์และรถบรรทุก โดยมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์คุณภาพเพื่อตอบสนองทุกความต้องการของผู้ใช้งานทั้งในประเทศและต่างประเทศทั่วโลก

            ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 8,500 ล้านบาท อีซูซุมีโรงงานประกอบรถยนต์ 2 แห่ง คือ โรงงานสำโรง จังหวัดสมุทรปราการ และโรงงานเกตเวย์ จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมีกำลังการผลิตรถอีซูซุรวมกันสูงถึง 361,000 คันต่อปี ด้วยความร่วมมือร่วมใจของพนักงานกว่า 5,600 คน