อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทคเข้าร่วมทุน“โรงไฟฟ้ามินบู”ประเทศเมียนมาร์ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 220 MW

บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) (ECF) สร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ขนาด 220 MW คาดว่าเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ไตรมาส 2 ปี 2562 และเริ่มก่อสร้างเฟส 2 ขนาด 50 MW ต่อเนื่อง

          นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) หรือ ECF เปิดเผยว่า บริษัทได้เข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด 220 เมกะวัตต์ เมืองมินบู ประเทศเมียนมาร์ ในสัดส่วน 20 เปอร์เซ็นต์ โดยลงทุนผ่าน บริษัท อีซีเอฟ พาวเวอร์ จำกัด ในฐานะบริษัทย่อยของบริษัท คาดว่าโครงการดังกล่าวจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 2 ปีของปีนี้และภายหลัง COD บริษัทจะสามารถรับรู้ส่วนแบ่งกำไรได้ทันที

          สำหรับความคืบหน้าการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้ามินบู ภายใต้การดูแลของกระทรวงพลังงานและไฟฟ้ากำลังทดสอบระบบก่อนใช้แรงดันจริง ซึ่งหลังจากการทดสอบโดย MOEE และผู้รับซื้อไฟฟ้าเสร็จสิ้น คาดว่าโครงการจะสามารถเริ่มCOD เฟสที่ 1 ขนาดกำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์DC ส่วนการเริ่ม COD ของเฟสที่ 2 3 และ 4 จะทยอยการก่อสร้างให้แล้วเสร็จ โดยมีกำหนดระยะเวลาดำเนินการหลังCOD 360 วันของแต่ละเฟสเป็นลำดับ

          โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาดกำลังการผลิต 220 เมกะวัตต์ ณ เมืองมินบู ประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ เป็นโครงการที่ปัจจุบันอยู่ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท พลังงานเพื่อโลกสีเขียว (ประเทศไทย) จำกัด หรือ GEP โดยมีผู้ลงทุนหลักคือ บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) (ECF), บริษัท เมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (META) บริษัท สแกน อินเตอร์จำกัด (มหาชน) (SCN) และ Noble Planet PTE. Ltd. (NP) เป็นโครงการที่มีขนาดใหญ่ มีกำลังการผลิตที่สามารถตอบสนองความต้องการใช้ไฟฟ้าได้ถึง 350,000,000 kWh/ปี รองรับการใช้ไฟฟ้าได้ถึง 217,256 ครัวเรือน สอดคล้องกับความปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าที่สูงขึ้น คาดการณ์อัตราการเติบโตความต้องการการใช้ไฟฟ้าเฉลี่ยถึง 11.7 เปอร์เซ็นต์ต่อปี

          นอกจากนี้ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มินบู เป็นโครงการโรงไฟฟ้าที่ไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมามีน้อยมากโดยใช้ระบบพลังงานทดแทนในการผลิตไฟฟ้าหากเทียบกับโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินจะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ประมาณ 154,586,250 กิโลกรัม ต้องใช้ต้นไม้จำนวน 6,825,000,000 ต้น เพื่อดูดซึมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ มินบู ไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์